Part:หลังทำนาเสร็จสานตะกร้า ปลูกฝัก วิถีท้องถิ่นแแ

โดย…คมดงเสือ

ยามว่างสานตะกร้า ไว้ใช้และขายสร้างรายได้จากทำนา

เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวกันแล้ว ที่บ้านนา บ้านเรา ได้เริ่มเก็บเกี่ยวข้าวไปเกือบหมดทุกบ้านแล้ว แต่ละคนหน้าบานกันทั่วหน้า ได้ราคาข้าวงามไม่ต่ำกว่าหมื่นบาท ตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดนี้ แต่ทุกคนเห็นแต่ตัวเลข รอกันเกือบ 3 อาทิตย์แล้ว ก็ยังไม่เห็นเงินของตัวเองสักที บางคนก็เริ่มทำนารอบใหม่แล้วเงินลงทุนก็ยังไม่มี ทำให้ชาวนาเกิดความลังเล ว่าโครงการรับจำนำข้าวนี้มีผลดีกับชาวนาหรือไม่ แต่ก็คงต้องรอเงินออกกันต่อไป… สภาพอากาศบ้านเรา ก็อยู่ที่ ประมาณ 25 องศา ในช่วงเช้า หมอกควันเริ่มมีกันให้เห็นบ้างแล้ว สดชื่นเมื่อได้สัมผัส

ตะกร้างานฝีมือของคนบ้านนา บ้านเรา

แต่ในช่วงนี้ที่บ้านนา บ้านเรา ได้หารายได้เสริม จากช่วงรอยต่อของการทำนา และย่ามว่างของการทำนาด้วยการสานตะกร้า สำหรับใส่ของ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุใส่กับข้าวกับปลาไปวัด เหมาะสำหรับพ่อบ้านแม่บ้าน นำไปจ่ายตลาด เหมาะสำหรับเป็นการเช้าของขวัญให้กับผู้หลักผู้ใหญ่กัน ผมมองเห็นแล้วรู้สึกดี เพราะมันทำให้เกิดรายได้ ถึงแม้น้อยนิด แต่ก็เป็นอาชีพใหม่ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านของเรา โดยราคาก็ไม่แพงมากหากเปรียบเทียบกับงานฝีมือ เพียง 400 บาท ต่อใบ ต้นทุนในการทำในหนึ่ง 200 บาท ทำให้คนในบ้านเรา ก็จะมีรายได้เพียง 200 บาทต่อหนึ่งใบเท่านั้น อีกทั้งในหนึ่งก็ใช้เวลา 3-4 ชม.(เพิ่งหัดสาน) มีหลายสีให้เลือกซื้อ ผมเห็นแล้ว สวยงามดีเหมาะสำหรับซื้อเก็บไว้ใช้จริงๆ

ยามว่างของเด็กที่ปิดเทอม

ตอนนี้ผู้ที่สานตะกร้า เสริมรายได้ยังขายกันยังไม่ได้หรอกครับ….เนื่องจากเพิ่งเริ่มต้นก็สาน แต่ก็มีผู้สั่งจองกันบ้างแล้ว ซึ่งก็ถือว่าเป็นกำลังใจของผู้ทำเป็นอย่างมาก สำหรับคนบ้านนา บ้านเรา หากผู้ใดต้องการเลือกซื้อตะกร้าสวยงาม งานฝีมือของชาวบ้าน ไม่แพ้มืออาชีพ ส่งเสริมรายได้ให้กับคนท้องถิ่นจริง ก็ลองโทรศัพท์ติดต่อกันได้นะครับ ที่นายนรา ขันสิงหา 089-6383314 หรือนางสุชาดา ซาไซ 083-6642281 ตลอด 24 ชม.ครับ

 

ช่วยกันพัฒนาบ้านเรา

นอกจากงานฝีมือเหล่านี้แล้ว ยามว่าง ก็ยังช่วยกันพัฒนาหมู่บ้าน ตัดกิ่งไม้ ถางหญ้า ปรับปรุงให้หมู่บ้านของเราให้น่าอยู่มากขึ้น

รังมัดแดง

และที่สำคัญในช่วงนี้เป็นช่วงของปิดเทอมของเด็กๆในหมู่บ้าน (เดือน ต.ค.55) ที่ไม่ได้ไปเรียน ก็จะมักวิ่งเล่น ปั่นจักรยานรอบหมู่บ้านกันอย่างสนุกสนานตามประสาของเด็กๆ ทำให้ผู้สูงอายุ คุณตา คุณยา กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เพราะจะไม่ได้เพียงอยู่บ้านเฉยๆเท่านั้น แต่ต้องคอยดูเด็กๆ ที่ชอบเล่นไม่ถูกที่  หรือซุกซน นั่นแหละครับ…บางวันก็จะมีเสียงโวกเวก ดุด่าหลานๆ กันอลม่าน เห็นแล้วก็มีความสุขมาก สิ่งเหล่านี้กลายเป็นยาอายุวัฒนะ ของผู้สูงอายุเป็นอย่างดีครับ

 

ฟักทองที่ปลูกไว้มันใหญ่ถึง 10 ก.ก.
ฟักทองใหญ่มาก
ได้กินฟักทองกันหลายมื้อ

พืชผลหลายชนิดที่ปลูกไว้ก็งดงาม ออกผลน่ารับประทาน โดยเฉพาะฝักทองที่แม่ของผมปลูกไว้ ทำไมปีนี้ได้ชั่งใหญ่โต มีน้ำหนักถึง 10 กก.ทีเดียว ลูกหนึ่งกินได้ 3-4 ครอบครัว เรียกว่าพวกเราได้กินผัดฝักทอง แกงบวชฝักทอง ฝักทองเชื่อม กันหลายมื้อทีเดียวครับ ซึ่งก็ถือว่าเป็นความสุขตามวิถีชีวิตของคนในชุมชนอย่างแท้จริง ที่เราสามารถหาสัมผัสได้ในทุกๆที่ของประเทศไทยเราครับ..

 

////

 

แสดงความคิดเห็น