นำงาช้างขึ้นทะเบียนจำนวนมาก1,500กก.แล้ว

DSC00818ประชาชนจาก 3 จังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์และอุตรดิตถ์ เร่งนำงาช้างมาขึ้นทะเบียนกับส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ที่ 11 กันจำนวนมากก่อนมีการปิดการแจ้งครอบครองในวันพรุ่งนี้ แจ้งคอบครองงาช้างจำนวน 1,038 ราย  เป็นงาช้างสมบูรณ์เป็นกิ่ง 397 งา น้ำหนัก 1,410.27 กิโลกรัม เป็นงาช้างท่อน 449 ท่อน น้ำหนัก 186.77 กิโลกรัม  และเป็นผลิตภัณฑ์ อาทิ สร้อยคอ เครื่องประดับ เครื่องดนตรี ด้ามมีด  ฯลฯ จำนวน 13,738 ชิ้น  คิดเป็นน้ำหนักรวม 307.652 กิโลกรัม

DSC00824วันที่ 20 เมษายน  2558 ที่ สำนักบริหารพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ 11 อ.เมือง จ.พิษณุโลก  จุดที่มีการเปิดในมีการลงทะเบียนงาช้าง หลัง มีประกาศให้ผู้ที่ครอบครองงาช้างต้องไปลงทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมาและจะสิ้นสุดในวันที่ 21 เมษายน 2558   โดยบรรยากาศในวันนี้พบว่า มีประชาชนในพื้นที่  3 จังหวัด  คือ จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์และอุตรดิตถ์ ได้นำงาช้างที่อยู่ในรูปของสร้อยคอ และเครื่องประดับต่าง  เครื่องดนตรี  มีด และงาช้างแบบสมบูรณ์   เดินทางมาขึ้นทะเบียนกับส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่  11 กันจำนวนมาก เฉพาะในช่วงเช้าเกือบ  200 ราย คาดว่ากว่าปิดในช่วงเที่ยงคืนวันนี้น่าจะไม่ต่ำกว่า 300 ราย

DSC00821

 

นายอมร ต่อเจริญ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 กรมอุทยาน เปิดเผยว่า  เหลือเวลาอีก 2 วันที่จะมีการแจ้งครอบครองงาช้าง ซึ่งจากรายงานการแจ้งครอบครองงาช้าง ตาม พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ.2558 ในส่วนของส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า  สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 11 นับตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ – 19 เมษายน  มีประชาชนมาแจ้งคอบครองงาช้างจำนวน 1,038 ราย  เป็นงาช้างสมบูรณ์เป็นกิ่ง 397 งา น้ำหนัก 1,410.27 กิโลกรัม เป็นงาช้างท่อน 449 ท่อน น้ำหนัก 186.77 กิโลกรัม  และเป็นผลิตภัณฑ์ อาทิ สร้อยคอ เครื่องประดับ เครื่องดนตรี ด้ามมีด  ฯลฯ จำนวน 13,738 ชิ้น  คิดเป็นน้ำหนักรวม 307.652 กิโลกรัม  ซึ่งในวันนี้ทางส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าได้จัดเจ้าหน้าที่ไว้รองรับการเดินทางมาขึ้นทะเบียนของประชาชนจำนวนมาก โดยจะเปิดให้บริการถึงเที่ยงคืนในช่วง 2 วันนี้ หากประชาชนที่ทราบข่าวให้รีบนำงานช้างมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฏหมายโดยเร็ว  และหลังจากนี้หากประชาชนรายใดที่ครอบครองงาช้างไว้  จะต้องบอกที่มาของงาช้างที่ครอบครองได้   และหากไม่สามารถแจ้งที่มาที่ได้งาช้างมา  อาจมีโทษปรับ 3 ล้านบาทและจำคุก 3 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเจตนา ที่มีและปริมาณการครอบครองDSC00813

แสดงความคิดเห็น