ป่าไม้-ตร.ภาค 6 จับ”นายทุน”กานไม้สักให้ยืนต้นตายริมถ.พิษณุโลก-หล่มสักอ.วังทอง

686687วันที่ 30  เม.ย.2559   นายวิชาญ  ขันธ์แก้ว เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 8 (น้ำยาง) นายศักดิ์ปรินทร์  สุรารักษ์  หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล 1 (วังทอง) นายธีรพล กาญจนโกมล หน.สายตรวจปราบปราม สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่  11 สายที่  1,  พ.ต.ท.พิทักษ์พันธ์  สุวรรณน้อย   สารวัตร สืบสวนภาค 6  (กอง 1) สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกและผู้ใหญ่บ้านวังกะบาก  สนธิกำลังออกตรวจ และหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ กระทั่งพบเห็นพื้นที่บริเวณป่าข้างโรงเรียนทางด้านทิศตะวันตกของโรงเรียนสฤษดิ์เสนาพิทยาคม หมู่ที่  19  บ้านวังกะบาก  ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ถูกตัดโค่นต้นไม้  เผาป่าและกานต้นไม้(เพื่อให้ยืนต้นตาย) เกลื่อน 686686

ตรวจสอบพบว่า อยู่ในเขตป่าไม้ถาวร 2484 ผู้ใหญ่บ้านระบุว่า มีนายทุนเป็นราชการทำงานอยู่กรุงเทพ เป็นเจ้าของที่ดินแต่ให้ลูกสาวสร้างบ้านพัก  2  หลัง 1 ห้องน้ำ ด้านหน้าติดถนนสาย 12 (พิษณุโลก – หล่มสัก )  จับพิกัดเนื้อที่ 11  ไร่  ซึ่งบริเวณหลังมีสภาพต้นไม้ธรรมชาติขึ้นกระจาย คาดว่า ผู้ครอบครอง ต้องการล้มต้นไม้ ให้โล่งเตียน จึงใช้ของมีคมฟันเป็นร่องลึกรอบโค่นต้น(กานไม้)ให้ยืนต้นตาย ก่อนโค่นทิ้ง

ตรวจนับไม้สักถูกกาน  4  ต้นและไม้กระยาเลย  11  ต้น และยังมีไม้ประดู่ท่อนที่ถูกโค่นแล้ว  1  ต้น คิดเป็นปริมาตร 1.05 ลบ.ม.   จนท.จึงทำการตัดทอนและเคลื่อนย้ายของกลางออกจากพื้นที่   พร้อมทำบันทึกคดีให้ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวังทอง  ดำเนินคดีตาม ตามพระราชบัญญัติป่าไม้  พุทธศักราช  2484 มาตรา  11 ฐาน ทำไม้ เจาะ  สับ  เผา  หรือทำด้วยประการใดๆโดยไม่ได้รับอนุญาต”  และมาตรา 69  มีไม้หวงห้ามยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองe

ต่อมาชุดจับกุมดังกล่าวลาดตะเวรไปยังพื้นที่ใกล้ๆกัน พบว่า บริเวณหลังปั้ม ปตท.หมู่ 19   ต.วังนกแอ่น  อ.วังทอง ที่ติดถนนสาย 12 (พิษณุโลก – หล่มสัก ) สภาพชายเขาสูงชัน ทัศนียภาพหรือวิวสวยงามหากมองลงมาเบื้องล่าง  อยู่ในเขตป่าสงวนลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา  ถูกบุกรุกแผ้วถาง  1  แปลง  โดยเป็นการบุกรุกป่าใหม่  ตัดฟันลูกไม้ กล้าไม้และถาง สุมเผา เหลือแต่ร่องรอยของตอไม้  ไม่ปรากฏร่องรอยของการใช้ประโยชน์หรือทำกินหรือการเกษตรกรรมมาก่อน  สภาพพื้นที่ทั่วไป มีก้อนหินขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ไม่เหมาะแก่การทำเกษตรกรรม  ที่สำคัญ มีเสาปูนปักฝังเป็นแนวเขตแปลง แสดงการครอบครองชัดเจน

ตรวจสอบจากคนในพื้นที่ข้างดังกล่าว ทราบว่า “จ.ส.อ.”รายหนึ่ง  อดีตข้าราชการบำนาญ เป็นเจ้าของ และว่าจ้างคนงานในพื้นที่แผ้วถาง

จับค่าพิกัดคำนวณพื้นที่ป่าถูกบุกรุกแผ้วถาง  ประมาณ  2 – 1 – 76 ไร่  คิดคำนวณค่าเสียหายของรัฐประมาณ  166,515 บาท

จึงทำบันทึกส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวังทอง  ตามพรบ.ป่าไม้  2484  มาตรา 54 และ 55 แผ้วถาง เป็นการทำลายป่า  ยึดถือครอบครองป่า  และพรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ  2507 มาตรา  14  ยึดถือครอบครอง  แผ้วถาง อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ

แสดงความคิดเห็น