แม่ค้าตลาดร่วมใจเข้าแจ้งความ ถูกโกงเงินทอน 500 บ.กล้องวงจรปิดจับภาพได้

ฉ้อโกง (4)เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 ก.ค. 2559 พ.ต.ท.เอกชัย  พรมทอง รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากนางถุงเงิน  อำรุง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 524/12 ถ.บรมไตรโลกนารถ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก แม่ค้าขายผักสดที่ตลาดร่วมใจ เทศบาล 6 อาคาร 2 ว่าเมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 10 ก.ค. 2559 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเอง และ ด.ช.กิตติ  ชินชนะไพรี อายุ 14 ปี บุตรชาย กำลังยืนขายของอยู่ในร้านค้า มีหญิงสาววัยกลางคนอายุประมาณ 50 ปี ( เสื้อขาว สวมแว่น ) ทำทีเข้ามาขอซื้อกระเทียมจำนวน 1 ถุง ในราคา 50 บาท ฉ้อโกง (3)จากนั้นหญิงคนดังกล่าวได้ยื่นเงินแบงค์ 1,000 บาท มาให้จำนวน 1 ใบ ตนจึงได้หยิบเงินในกระเป๋าคาดเอวออกมาให้บุตรชายทอนเงินลูกค้าจำนวน 950 บาท มีแบงค์ 500 บาท  1 ใบ แบงค์ 100 บาท 4 ใบ แบงค์ 20 บาท 2 ใบ และเหรียญ 5 บาท 2 เหรียญ แต่เมื่อทอนเงินให้ไปแล้ว ลูกค้ากลับบอกว่าลูกชายตนว่า ทอนเงินไม่ครบ ไม่มีแบงค์ 500 บาท มีเพียงแบงค์ 50 เท่านั้น ซึ่งตอนแรกตนเองก็คิดว่าไม่น่าจะทอนเงินผิดได้ เพราะปกติจะเป็นคนรอบคอบ จัดแบ่งเงินไว้ในกระเป๋าคาดเอวแบ่งแยกไว้เป็นปึกละ 1,000 บาท  ปึกละ 500 บาท และ 100 บาท แยกไว้ต่างหาก แต่ด้วยความกลัวว่าจะเสียลูกค้าจึงยอมทอนเงินให้ไปอีก 500 บาท ก่อนที่หญิงวัยกลางคนจะเดินหายไปฉ้อโกง (1)

ฉ้อโกง (2)

เมื่อมานึกขึ้นและสงสัยในพฤติกรรมของหญิงคนดังกล่าว จึงตัดสินใจเปิดกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้รอบร้านจำนวน 4 ตัว จึงเผยให้เห็นพฤติกรรมชัดเจนว่า ระหว่างที่ทอนเงินให้ลูกค้ารายนี้ แอบเอาเงินแบงค์ 500 บาท ซุกซ่อนไว้ข้างในกางเกง แล้วนำเงินแบงค์ 50 บาท ที่เตรียมมาเพื่อแอบอ้างว่าตนเองทอนเงินให้ไม่ครบ หลังจากเกิดเหตุจึงตัดสินใจร่วมกับประธานตลาดร่วมใจ พ่อค้า แม่ค้า โดยมีความเห็นตรงกันว่าลูกค้าแบบนี้มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อาจจะไปสร้างความเดือดร้อนคอยโกงเงินทอนให้กับร้านค้าอื่นได้ จึงเดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อติดตามหญิงวัยกลางคนรายนี้มาสอบปากคำเพิ่มเติม และตรวจสอบข้อเท็จจริงของกล้องวงจรปิดที่จับภาพไว้ได้ ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมกับเตือนพ่อค้าแม่ค้าระวังมิจฉาชีพ ที่อาจแฝงตัวมาในหลายรูปแบบ ที่อาจทำให้เสียทรัพย์สินได้ในที่สุดฉ้อโกง (7)

ฉ้อโกง (6)

/////////////

 

แสดงความคิดเห็น