โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า คนอยู่กับป่า ป่าอยู่กับคนได้อย่างสมดุลย์

dsc_0049ชาวไทยภูเขาเผ่าม้งภูหินร่องกล้า ร่วมโครงการพระราชดำริของในหลวง เลิกปลูกฝิ่นพืชยาเสพติด หันมาปลูกสตอเบอรี่พันธุ์พระราชทาน 80 และกาแฟอาราบิก้า ส่งเสริมอาชีพพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชาวเขาในพื้นที่ตามแนวพระราชดำริ “คนอยู่ร่วมกับป่าไม้โดยพึ่งพาซึ่งกันและกัน”img_5822

dsc_0003วันที่ 21 ต.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก แต่เดิมถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ชายแดน และเดิมเป็นฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ แต่ภายหลังจากที่รัฐบาลใช้นโยบายการเมืองนำการทหารยุติสถานการณ์การสู้รบแล้ว ทำให้มวลชนชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ได้เข้ามอบตัวเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย รัฐบาลจึงได้ให้การแก้ไขปัญหาความมั่งคงได้ในระดับหนึ่ง แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีราษฎรอยู่อาศัยจำนวนมากรอบแนวเขตอุทยานฯ และเป็นชาวไทยภูเขาส่วนมาก ประกอบกับราษฎรต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ต้องการมีรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อหาสิ่งอำนวยความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน ทำให้มีแนวโน้มของการบุกรุกป่าเพิ่มขึ้น

DCIM100MEDIADJI_0211.JPG

img_5881ต่อมากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีคำสั่งที่ 1450/2551 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2551 ได้ตั้งโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก จ.เพชรบูรณ์ และ จ.เลย ปฏิบัติงานโครงการตามแนวพระราชดำริด้านงานพัฒนาป่าไม้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ยุติการแผ้วถางป่า และทำลายทรัพยากรธรรมชาติ แต่ขณะเดียวกันก็ยุติปัญหาความขัดแย้งกับราษฎรโดยนำแนวพระราชดำริ “คนอยู่ร่วมกับป่าไม้โดยพึ่งพาซึ่งกันและกัน” มาปฏิบัติ และการดูแลราษฎรให้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า ป้องกันไฟป่า และดูแลสัตว์ป่า ขณะที่ชาวเขาเหล่านี้จะได้รับผลประโยชน์จากโครงการฯ ที่ช่วยเหลือแนะนำการประกอบอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นdsc_0063

โดย นายช่อใหญ่  แซ่หว้า อายุ 59 ปี ชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ที่ได้เข้าร่วมโครงการตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า กล่าวว่า ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษก็ยึดอาชีพปลูกฝิ่นขาย และทำไร่เลื่อนลอย แต่หลังจากได้เข้าร่วมโครงการตามแนวพระราชดำริของในหลวงแล้ว ทุกคนต่างเปลี่ยนความคิด หันหลังให้กับการปลูกฝิ่น ซึ่งเป็นพืชยาเสพติดทำลายประเทศชาติ เห็นถึงโทษและผิดภัยต่างๆ ทุกวันนี้ตนเองพร้อมกับชาวไทยภูเขาเผ่าม้งอีกกว่า 17 ครอบครัว จึงน้อมนำเอาแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่หยิบยื่นมาให้กับราษฎรของพระองค์ หันมาปลูกสตอเบอรี่พันธุ์พระราชทาน 80 แทน โดยมีเจ้าหน้าที่ของโครงการตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้าคอยให้คำแนะนำ รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่ชาวไทยภูเขาเผ่าม้งได้มีอาชีพทำกินสุจริต ชาวไทยภูเขาเผ่าม้งทุกคนจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันช่วยดูแลแปลงสตอเบอรี่ ไม่ว่าจะเป็นการรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย จนได้ผลผลิตออกสู่ตลาดในช่วงฤดูหนาวของทุกปี ทำให้ครอบครัวของชาวไทยภูเขาเผ่าม้งมีรายได้ทุกครัวเรือน ไม่ต้องพึ่งพาการปลูกพืชยาเสพติดimg_5924

นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้ปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้า ซึ่งเป็นกาแฟที่นิยมของท้องตลาดอีกด้วย ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพ่อหลวง อย่างหาที่สุดมิได้ ที่มอบอาชีพให้กับชาวไทยภูเขาเผ่าม้งบ้านร่องกล้า ซึ่งพระองค์ไม่เคยทอดทิ้งราษฎรเลย พวกตนรู้สึกปลาบปลื้มใจที่ได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินของพ่อ และจะนำแนวพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วยimg_5823

นายศุภกุล จันทร์ลา หัวหน้าโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ถือว่าเป็นอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงเห็นปัญหาของชาวไทยภูเขาที่ต้องพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยโครงการพระราชดำริ เกิดขึ้นเพื่อเป็นการพัฒนาและรักษาพื้นที่ป่าไม้ให้คนอยู่กับป่า ป่าอยู่กับคน สร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น โดยได้เริ่มโครงการฯ 2552 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งส่งเสริมให้ชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ในพื้นที่บ้านใหม่ร่องกล้า หมู่ที่ 10 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง ได้ปรับเปลี่ยนอาชีพจากเดิมมีการปลูกฝิ่นและไร่กะหล่ำ หันมาส่งเสริมปลูกไร่สตอเบอรี่พันธุ์พระราชทาน 80 และการปลูกกาแฟอราบิก้า เพิ่มอาชีพ สร้างรายได้ โดยมีแปลงสาธิตในโครงการฯ ก่อน จากนั้นชาวบ้านก็จะนำไปปลูกในพื้นที่ของตน ตอนนี้มีชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง มาช่วยงานในโครงการทั้งสิ้น 17 ครอบครัว  และได้นำการปลูกสตอเบอรี่พันธุ์ 80 และกาแฟอราบิก้าไปปลูกไม่ต่ำกว่า 30 ไร่แล้ว นอกจากนี้ยังส่งเสริมการปลูกดอกกระดาษ ในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อีกด้วยimg_5933

img_5919

dsc_0007

1038700

แสดงความคิดเห็น