ป่าไม้ขึ้นฮ.บินตรวจป่าลงจับลักลอบแปรรูปไม้กลางป่าสงวนฯที่อ.นครไทย

จนท.ป่าไม้และอุทยานแก่งเจ็ดแคว(เตรียมการ) ร่วมเปิดปฎิบัติการแผนบินตรวจสอบสภาพป่า ประกอบด้วย  หน่วยฯพล.14(น้ำคลาด), หน่วย พล.16 น้ำโจน-ปากพาน, อช.แก่งเจ็ดแควและตำรวจ บก.ปทส.(ตำรวจป่าไม้) ออกตรวจปราบปรามป้องกันรักษาป่า โดยได้บินวนบริเวณเหนือต้นน้ำเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ในเขตอำเภอชาติตระการ, นครไทยและวัดโบสถ์ สามารถมองเห็นผืนน้ำ และผืนป่าและพื้นที่เกษตรกรรม

ฮ.บินตรวจสภาพป่าผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ กระทั่งพบว่า มีการตัดไม้และแปรรูปไม้ ขาวโพลน จนท.ป่าไม้จึงสั่งการให้นักบิน ร่อนลงเพื่อติดตามและจับกุม เนื่องจากมีไม้ของกลางและผู้ต้องหากำลังกระทำความผิด โดยเฮลิคอปเตอร์บินวนดูรอบๆ และร่อนลงกลางแปลงไร่มันที่เพิ่งเตรียมการ  จนท.ป่าไม้และอุทยานฯ ตามจับกุมนายอนนท์ เขียวยันต์ อยู่ที่เกิดเหตุ จึงตรวจยึดไม้กระยาเลยแปรรูป(พลวง และพะยอม) จำนวน 24 แผ่น คิดเป็นปริมาตร 0.61 ลบ.ม. พร้อมอุปกรณ์เลื่อยโซ่ยนต์ ยี่ห้อสติล ขนาด 25 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง เหตุเกิด บริเวณป่าบ้านน้ำตาก หมู่ที่ 17 ตำบลหนองกะท้าว อ.นครไทย จังหวัดพิษณุโลก ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง

นายชาญชัย เรืองศิลป์ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ พล.14 (น้ำคลาด ) เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนเลื่อยไม้ ถูกว่าจ้างมาจากนายทุนคนหนึ่ง ประกอบอาชีพราชการ มีสวนมะขาม ในเขตอำเภอนครไทย ล่าสุดทำบันทึกส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรนครไทย แล้ว  คดีที่  181/2561 ยึดทรัพย์ที่ 96/2561 ส่งให้ร้อยตำรวจเอกมนัส แก้วจินดาคำ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวโทษนายอนนต์ เขียวยันต์ ตามพรบ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 11 ฐาน ทำไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และมาตรา 48  แปรรูปไม้ ไว้ในครอบครองและตั้งโรงงานแปรรูปเกิน 0.20 ลบ.เมตร และมาตรา 70 ซ่อนเร้นไม้ นอกจากนี้ มีฐานความผิดตามพรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 ยึดถือครอบครอง ทำไม้ เป็นอันเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวน โดยไม่ได้รับอนุญาต

…………………………………………………………………………………………

แสดงความคิดเห็น