ตร.ทางหลวงพิษณุโลก-กู้ภัย-ลงน้ำช่วย 6 ชีวิตรถคว่ำจมคลองน้ำข้างทาง

หนุ่มเพชรบูรณ์พร้อมครอบครัวขับรถกระบะวูบหลับในเสียหลักชนราวสะพานพลิกคว่ำตกคลองน้ำจมมิดคัน ดต.ทางหลวงพิษณุโลก โดดลงน้ำไปช่วย ประสานชาวบ้านและกู้ภัย นำเรือลงไปไปช่วยพาขึ้นมานำส่งโรงพยาบาบได้อย่างปลอดภัยทั้งหมด 6 ราย 

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 7 พ.ย. 2561 ร.ต.อ.ธาวิน  หนองหลวง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีรถกระบะเสียหลักพุ่งชนราวสะพานข้ามคลองยาง ริมถนนทางหลวงหมายเลข 11 เส้นอุตรดิตถ์-พิษณุโลก กม.ที่ 237+800 (ฝั่งขาเข้าเมือง) หมู่ 8 ต.บ้านป่า อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานพิษณุโลก  ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีบรอนซ์-เทา ทะเบียน บล 1937 เชียงใหม่ สภาพพลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้าลงไปในคลองน้ำจนจมมิดคัน พบผู้ได้รับบาดเจ็บที่มีทั้งผู้ใหญ่และเด็ก จำนวน 6 ราย สามารถออกมานอกรถได้อย่างปลอดภัยและนั่งอยู่บนท้องรถคันดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถขึ้นมาบนฝั่งได้เนื่องจากน้ำมีความลึกกว่า 2 เมตร

ต่อมา ด.ต.ประทีป  มีอุดร ผบ.หมู่ ส.ทล.3 กก.5 บก.ทล. ต้องตัดสินใจลงไปในน้ำพร้อมประสานเรือเล็กของชาวบ้านเข้าไปช่วยเหลือ เนื่องจากพบว่ามีเด็กน้อยจำนวน 2 ราย มีอาการสำลักน้ำต้องนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ก่อนจะช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้งหมด 6 ราย ขึ้นมาบนฝั่งได้สำเร็จพร้อมให้กู้ภัยเร่งนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ทราบชื่อภายหลัง คือ นายปัญญา  ปิ่นแก้ว อายุ 47 ปี นางสุรีรัตน์  ทองลำพันธ์ อายุ 33 ปี น.ส.เพ็ญนภา  ปิ่นแก้ว อายุ 13 ปี ด.ช.เอกรินทร์ ปิ่นแก้ว อายุ 6 ขวบ ด.ญ.นุจรินทร์  ปิ่นแก้ว อายุ 1 ขวบ และ ด.ช.อัมรินทร์  ปิ่นแก้ อายุ 5 เดือน ขณะนี้ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

จากการสอบสวนทราบว่า นายปัญญา  ปิ่นแก้ว เจ้าของรถกระบะชาวจ.เพชรบูรณ์  พร้อมกับภรรยาและลูก ได้ขับรถเดินทางจากจังหวัดพะเยาเพื่อกลับบ้านที่จังหวัดเพชรบูรณ์ มาด้วยกันทั้งหมด 6 คน แต่ระหว่างทางคาดว่าขับมาด้วยความเร็วสูง ประกอบกับถนนเป็นทางตรงยาวอาจทำให้เหนื่อยล้ามีอาการวูบหรือหลับใน จนทำให้รถกระบะเกิดเสียหลักพุ่งชนราวสะพานพลิกคว่ำได้รับบาดเจ็บในที่สุด ทั้งนี้ผู้บาดเจ็บยังอยู่ในอาการตกใจยังไม่สามารถให้ปากคำเพิ่มได้ จึงต้องรออาการดีขึ้นก่อน พร้อมจะทำการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.

………………………………………………………………………………………………………..

แสดงความคิดเห็น