ไก่ต้มน้ำอ้อย อาหารพื้นถิ่นสูตรโบราณเมืองสองแคว@บ้านวัดจันทร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ม.2 บ้านวัดจันทน์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งเปิดเป็นเรือนจันทร์เสวย ที่รวบรวมเมนูอาหารพื้นพื้น ท้องถิ่น ทั้งอาหารคาว หวาน ที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตชุมชน มีคุณภาพ สด สะอาดปลอดภัย และถูกสุขลักษณะ โดยวันนี้เมนูที่นำเสนอคือเมนูที่ขึ้นชื่อของเรือนจันทร์เสวย คือเมนูไก่ต้มน้ำอ้อย เมนูพื้นถิ่นธรรมดาๆ ที่รสชาติไม่ธรรมดา ที่ชาวบ้านในชุมชนสืบสานมานานกว่า 200 ปี  โดยมีคุณติ๊ก หรือคุณกัณฐ์มณี พูลธนทวีกิจ อายุ 40 ปี เจ้าของเรือนจันทร์เสวย ที่เปิดเพื่อดึงคนในชุมชนมาสืบสานอาหารพื้นถิ่นให้คงอยู่

คุณติ๊ก หรือคุณกัณฐ์มณี พูลธนทวีกิจ ได้เล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นเกิดจาก จังหวัดให้ผลักดันของดีในชุมชม ตามโครงการโอท็อปนวัตวิถี ตนจึงมานั่งคุยกับคนในชุมชนว่า บ้านวัดจันทร์บ้านเกิดของตนมีของดีอะไรที่สามารถต่อยอดและอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้รู้จัก เลยมาลงตัวที่เมนูอาหารพื้นถิ่น ซึ่งมีทั้งอาหารคาว อาหารหวาน โดยมีคนเฒ่าคนแก่ในชุมชนให้ความร่วมมือ ใช้เรือนจันทร์เสวยแห่งนี้เป็นสถานที่รื้อฟื้นเมนูโบราณ โดยเมนูที่ขึ้นชื่อของเรือนจันทน์เสวยก็คือ เมนู “ไก่ต้มน้ำอ้อย 200 ปี” ที่มีป้าแป๊วหรือนางสมผล มีพยุง อายุ 72 ปี เป็นผู้ถ่ายทอดรสมือชั้นเยี่ยมที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ

ป้าแป๊วหรือนางสมผล มีพยุง บอกว่าวันนึงได้นั่งคุยกับหลาน ก็คือคุณติ๊ก หรือคุณกัณฐ์มณี พูลธนทวีกิจ ว่าอยากจะชูของดีในพื้นถิ่น อยากจะรวบรวมเมนูโบราณที่หาทานได้ยาก ก็เลยมาลงตัวที่ ไก่ต้มน้ำอ้อยสูตรโบราณ ที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ อายุนับ 200 ปีเห็นจะได้ที่บรรพบุรุษเล่าต่อๆกันมา คือคนในสมัยนั้นจะเลี้ยงไก่เยอะ ชาวบ้านก็เลี้ยงไว้ทั้งเป็นอาหาร และเป็นไก่ชน ประกอบกับสมัยก่อนไม่มีน้ำตาล ก็เลยใช้อ้อยแทนในการปรุงอาหาร ออกมาเป็นไก่ต้มน้ำอ้อย ต่อมาชาวบ้านวัดจันทร์แห่งนี้ก็ได้ปรับปรุงสูตรอาหารจนมาเป็นไก่ต้มน้ำอ้อยสูตรโบราณ ที่รสชาติกลมกล่อม เป็นเมนูที่ทานได้ทั้งครอบครัว

ส่วนวิธีทำก็คือเตรียมวัตถุดิบคือไก่ทั่วไปถ้าจะให้อร่อยควรจะเป็นส่วนของปีกบนไก่ ต้นอ้อยสด น้ำตาลอ้อย สับปะรด ใบเตย เกลือ น้ำปรุงคือซอสหวาน และซีอิ๊ว จากนั้นก็ตั้งหม้อให้ร้อนแล้วน้ำต้นอ้อยทุบพอแตก ลงไปวางเรียงที่ก้นหม้อ นำไก่ลงไปเรียง ใส่น้ำตาลอ้อย และเกลือลงไปโปะหน้าด้วยสับปะรดและใบเตย จากนั้นราดน้ำปรุงลงไป และเติมน้ำเปล่าให้ท่วมกองไก่ ปิดฝาและต้มทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงจนเริ่มมีกลิ่นหอมของน้ำอ้อย ก็เปิดฝามาคนและตั้งให้เดือดก็เป็นอันเรียบร้อย ถ้าใครกลัวจะเลี่ยนก็ให้ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ดจะอร่อยลงตัวมาก

คุณติ๊ก หรือคุณกัณฐ์มณี พูลธนทวีกิจ ได้บอกต่ออีกว่าได้เปิดเรือนจันทน์เสวยมาได้ประมาณ 4 เดือน โดยมีแม่ครัวเป็นคนเฒ่าคนแก่ในชุมชน ที่มาสืบสานอาหารคาวหวานของชุมชนที่กลัวจะเลือนหายไป มีหลากหลายเมนู ทั้งไก่ต้มน้ำอ้อยสูตรโบราณ มัจฉาเย้ยจันทร์ วารีทอดกรอบ ราหูอมจันทน์ นารีจันทร์เจ้า ที่ราคาเริ่มต้นเพียง 60 บาท นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นให้เลือกทานทั้งแบบอาหารจานเดียว อย่างผัดไท ข้าวคลุกกะปิ ราคาเริ่มต้นเพียง 45 บาท และเมนูของหวาน ในตำนานอีกมากมาย อาทิ ชนมสัมปันนี ขนมทองโปร่ง ขนมทองพลุ ขนมพระพาย ขนมบุหลันดันเมฆ ขนมเสน่ห์จันทร์ ขนมตะลุ่ม ขนมสำปันนี ที่ราคาเริ่มต้นเพียงชุดละ 60 บาทเท่านั้น

สำหรับท่านใดที่สนใจอยากจะไปชิมเมนูอาหารคาว หวาน พื้นถิ่นในตำนาน ที่คนเฒ่าคนแก่ในชุมชนบ้านวัดจันทร์มาร่วมกันสืบสานไว้ ท่ามกลางบรรยากาศกลางท้องทุ่งนาสีเขียวสบายตา ก็ไปได้ที่เรือนจันทร์เสวย บ้านเจ้าจัน จันทร์เจ้า ตั้งอยู่ที่ ม.2 บ้านวัดจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-20.00 น. โทรสั่งอาหารล่วงหน้า(จะได้ไม่ต้องรอนาน เพราะเป็นเมนูโบราณที่พิถีพิถันและรายละเอียดเยอะ) ทางเบอร์โทรศัพท์ 083-5539241 

แสดงความคิดเห็น