โดย…..คมดงเสือ
![DSC03362-1](https://www.phitsanulokhotnews.com/wp-content/media/2011/11/DSC03362-1-500x375.jpg)
ถึงแม้ว่าน้ำท่วมที่บ้านนา บ้านเรา ต.ดงเสือเหลือง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร จะผ่านไปนานร่วมเดือนแล้ว ก็ตามแต่สภาวะการพูดคุยในหมู่บ้าน เรายังไม่เคยลืมที่กว่า 40 ปี บ้านเรา น้ำไม่เคยท่วมมาก่อนจริงๆ ส่งผลให้พืชผลที่พวกเราปลูกไว้ ได้รับผลกระทบไปมาก โดยเฉพาะพืชอายุสั้น อย่าง พริก ที่บ้านผม ได้ปลูกไว้เป็นประจำทุกปี เพื่อเอาไว้กินและที่เหลือ ก็นำมาขายให้กับพ่อค้าตามท้องตลาด แต่ถ้าหากเพื่อนบ้านต้องการ ไม่มีไปรับประทานเป็นอาหาร ก็สามารถแบ่งปันกันได้
![DSC03360-1](https://www.phitsanulokhotnews.com/wp-content/media/2011/11/DSC03360-1-500x375.jpg)
พริกบ้านผม ไม่รู้ว่าพันธุ์อะไร ซึ่งผมว่ามันน่าจะเป็นพริกแกว ที่เขานำมาตำน้ำพริกกินทุกวันนี้ ปลูกประมาณเดือนเดียว ก็จะเริ่มกินสดกันได้แล้ว แต่เมื่อเม็ดเป็นสีแดง ก็สามารถเก็บมาตากแห้ง นำไปปั่น หรือ ตำ ส่วนใหญ่ บ้านผมจะตำในครกไม้ใหญ่ๆ ให้แหลก แล้ว นำไปเก็บไว้ในภาชนะที่มิดชิด ไว้กินหรือ นำไปปรุงอาหารให้มีรสชาติที่เผ็ดร้อน ถูกใจคนไทยที่ชอบรสชาติเผ็ดอย่างผมเป็นอย่างมาก
![DSC03365-1](https://www.phitsanulokhotnews.com/wp-content/media/2011/11/DSC03365-1-500x375.jpg)
ครอบครัว ผมทุกปีในช่วงของการทำนา พวกเราก็จะปลูกพริกไว้ที่บริเวณท้ายไร่ ประมาณ 1 งาน หรือ 100 ตารางวา หากเมื่อดูเนื้อที่ อาจไม่มากนะครับ แต่ถ้าเทียบกับการปลูกพริก ผมบอกได้เลยว่ามากเกินที่เราจะเก็บพริกหมดให้ได้ในเวลาอันสั้น ตั้งแต่เด็กๆ ผมจะชอบบ่น(ตามประสาเด็ก) เป็นปะจำกับยายผม ว่าจะปลูกทำไมตั้งเยอะ เพราะว่าพริกเป็นพืชที่ต้องคอยดูแลเป็นประจำ ตั้งแต่เพาะเมล็ด จนเป็นต้นกล้า แล้วนำไปขุดหลุมปลูก ตักน้ำเป็นประจำทุกวัน จนโต ก็โตที่ต้นพริกขยายกิ่งก้าน ก็ต้องนำไม้มาล้อมไว้ เพื่อป้องกันกิ่งหัก หากมีเมล็ดมากไป จากนั้นก็ต้องคอยดูแลไม่ให้เป็นโรคเชื้อรา และหนอนกิน อีกทั้งที่ผมไม่ชอบเอาอย่างมาก เวลาเก็บพริกแต่ละต้นต้องใช้เวลานานครับ เพราะต้นหนึ่งเวลาพริกแดงที่สามารถเก็บได้มันเยอะมาก บางทีถูกหวยพริกต้นนั้น อาจมีมดคันไฟอีก ทำให้ผมผวา!! ตามๆกันทีเดียวครับ
![DSC03372-1](https://www.phitsanulokhotnews.com/wp-content/media/2011/11/DSC03372-1-500x375.jpg)
ในแต่ละปี พวกเราจะมีพริกเก็บไว้ในบ้านมากพอจนขายได้มากว่าเพื่อนบ้าน จนมีพ่อค้าคนกลางจะมาถามหาซื้อไปกินและขายเป็นประจำ และปีนี้พริกแพงครับ เขาขายกันกิโลกรัมละ 120-150 บาททีเดียว แต่เนื่องด้วยพริกได้ถูกน้ำท่วมไปเยอะครับ แต่ก็พอมีที่พวกเราจะเก็บไว้รับประทานได้เท่านั้น ซึ่งไม่พอขายเหมือนทุกปีที่ผ่านมา ก็ถือว่าโชคดีที่บ้านเรา ไม่ต้องซื้อพริกกินเฉกเช่นคนทั่วไป
แต่สิ่งหนึ่งที่สอนให้ผมได้ทราบว่า การปลูกพืชผักอะไรก็ต้องรอผลผลิตที่จะคุมค่าการกว่าไปซื้อหามา เพราะนั้นจะทำให้การตั้งตารอสิ่งที่เราสร้างไว้เอง จะมีความสุขแบบที่เราเก็บไว้อยู่ในใจคนเดียว
/////