กลองอินทรเภรี ประเพณีย่ำกลองบอกเวลาที่ยังรักษาไว้ ที่วัดใหญ่

????????????????????????????????????

20 พฤษภาคม 2559 วันพระใหญ่ วันวิสาขบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 วันนี้พุทธศาสนิกชน ต่างเข้าวัดทำบุญไหว้พระกันจำนวนมาก ที่วัดใหญ่ หรือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร อ.เมืองพิษณุโลก ชาวพิษณุโลกอาจจะคุ้นกันอย่างดี ในการได้ยินเสียงตีกลองอินทรเภรี เพื่อบอกเวลา ที่จะมีเจ้าหน้าที่ของวัด เป็นผู้มาตีกลองนี้ทุกวัน ทุกชั่วโมง ระหว่างเวลา 06.00 น.-17.00 น. บนหอกลองอินทรเภรี หน้าวิหารพลวงพ่อพระพุทธชินราชIMG_6980

หอกลองอินทรเภรีที่วัดใหญ่แห่งนี้ เป็นศาลาทรงไทย ภายในมีกลองอินทรเภรีขนาดใหญ่จำนวน 2 ใบ ตั้งอยู่ด้านขวาหน้าวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช ในพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระอินทร์ได้เนรมิตกลายเป็นชีปะขาวลงมา ช่วยปั้นองค์รูปพระพุทธชินราชจนสำเร็จงดงามไม่มีที่ติ และกลองที่ใช้ประจำวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราชนี้ จึงเรียกกันว่า กลองอินทเภรี หรือ กลองของพระอินทร์ ใช้ตีบอกเวลาย้ำค่ำ และเที่ยงคืนแก่ประชาชน ซึ่งถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่พญาลิไทตั้งเมืองพิษณุโลกเป็นราชธานี เดิมทำด้วยไม้มะเขือ แต่สูญหายไป และถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

????????????????????????????????????

ปัจจุบัน เหลือแต่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหารเพียงแห่งเดียวในประเทศเท่านั้น ที่ยังคงรักษาประเพณีการย่ำกลองบอกเวลา ให้คงอยู่คู่เมืองพิษณุโลกสืบไป ซึ่งเสียงกลองที่ดังกึกก้องทุกชั่วโมง ระหว่างเวลา 06.00 น.-17.00 น.นั้น ถือเป็นศิริมงคลแก่ชาวพิษณุโลก ตลอดจนสง่างามน่าเลื่อมใสแก่องค์พระพุทธชินราชยิ่งนัก

????????????????????????????????????

????????????????????????????????????

กล้าณรงค์  ภักดิ์ประไพ ผู้บริหารรถรางนำเที่ยวเมืองพิษณุโลก ได้เขียนถึงกลองอินทรเภรี และนำเสนอในเว็ปไซด์พิษณุโลกฮอตนิวส์เมื่อวันที่  22 สิงหาคม 2556 https://www.phitsanulokhotnews.com/2013/08/22/42156  ระบุว่า  อินทร คือ พระอินทร์  หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่าเทวดา  เภรี แปลว่า กลอง  รวมเรียกว่า”กลองของพระอินทร์” เสียงเวลาแห่งสรวงสวรรค์ ในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก หนึ่งในอารยะที่ยิ่งใหญ่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ถือเป็นประเพณี ตีย่ำบอกโมงยามมาเป็นสัญญาณในความศักดิ์สิทธิ์สุดยอดของวัดนี้IMG_6983

กลองนี้ เดิมมีประวัติว่าทำจากไม้มะเขือป่าชำรุดและหายสาบสูญไป ตามกาลเวลา เอกลักษณ์ของกลองทั้ง2ใบที่เด่นๆคือเป็นกลองขนาดใหญ่ มียักษ์สองตนแบกกลอง  ยักษ์ที่เป็นสาวกข้างพระวรกายพระพุทธชินราช ยักษ์เวสสุวรรณและอาฬวกยักษ์แบก เป็นไม้แกะสลัก ช่างสมัยก่อนได้ออกแบบ คิดสร้างเพื่อความหมายใด คิดว่ามีนัยสำคัญแน่นอน ก่อนที่จะสร้างอะไรขึ้นมาสักอย่าง ตั้งคำถามว่าทำไมต้องเป็นยักษ์สาวกที่มีที่ซุ้มเรือนแก้วของพระพุทธชินราชด้วย ทำไมไม่เป็นอย่างอื่น หรือสิ่งอื่น ทบทวนดู  จะเป็นช้าง,ลิงหรือกวาง ฯลฯ ก็ได้ IMG_6986

พระเวสสุวรรณผู้เป็นเจ้าแห่งภูตผี,ยักษ์ต่างๆใช้กระบองเป็นอาวุธผู้ศรัทธาองค์สัมมาสัมพุทธเจ้ามาอย่างสม่ำเสมออาฬวกยักษ์ที่มีอำนาจใช้ผ้ามวยผมเป็นอาวุธ แต่ต้องยอมน้อมรับพระพุทธเจ้าด้วยศรัทธาจากความอาฆาตมาหลายชาติ แต่กลับน้อมรับพระพุทธเจ้าด้วยศรัทธาเชื่อว่าการตีกลองในแต่ละครั้ง แสดงถึงความศรัทธาในพระพุทธเจ้า บอกทุกชั่วโมงถึงแรงศรัทธา และยักษ์ที่ขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกจากเมืองพิษณุโลกของเราให้เมืองเราคลาดแคล้วจากภัยพิบัติต่าง ๆ นา ๆ

????????????????????????????????????

ความเชื่อผู้ที่ศรัทธาเมื่อไปวัดต้องยกมือไหว้ทุกทีที่ได้ยินเสียงกลอง เสมือนดั่งได้บอกกล่าวพระพุทธเจ้า,พระอินทร์หรือเทวดา ฟ้าดิน แสดงถึงความเคารพนอบน้อมต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ชาววัดจะยกมือกราบไหว้สม่ำเสมอทุกวันที่ได้ยินเสียง ขณะทั้งขาไปและขากลับของทุกๆวัน หากขาดเสียงนี้จักรู้สึกว่าขาดสิ่งหนึ่งไปต้องได้ฟังทุกๆวัน รู้สึกอุ่นใจนี่คือความหลากหลายองค์ประกอบที่รวบรวมหล่อหลอม เป็นส่วนหนึ่งในเมืองที่ยิ่งใหญ่ ที่ศักดิ์สิทธิ์ “พิษณุโลก” องค์ประกอบสร้างความขลังให้พระพุทธชินราชที่เรามองข้ามไปด้วยความเคยชิน

????????????????????????????????????

…………………………………………………………………………………………………………………..

แสดงความคิดเห็น