วันที่ 10 กันยายน 2554 พ.ต.ท.ชูชีพ แป้นเมือง สารวัตรเวร สภ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก สอบปากคำนางสมนึก กลมพั้ว อายุ 67 ปี และนายชะอ้อน แก้วเปี่ยม อายุ 69 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่4 ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ที่ถูกแก๊งค์ตุ๋นเงิน 2 แสนบาทและทองคำอีก 8 บาทไป
นางสมนึก กล่าวว่าเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้มีนางรุ่ง ไม่ทราบนามสกุล และที่อยู่ พร้อมหญิงสาวอีก 2 คน ได้มาทำความรู้จักและสอบถาม ต้องการหาซื้อที่ดิน บริเวณ ต.หินลาด อ.วัดโบสถ์ ซึ่งหลังจากนั้นก็มาทำทีตีสนิท และสร้างสถานการณ์ชักชวนให้นางสมนึก ร่วมหุ้นซื้อที่ดินจำนวน 120 ไร่ ที่บริเวณ ต.หินลาด อ.วัดโบสถ์ โดยจูงใจว่าถ้าร่วมหุ้นกันแล้วจะได้กำไร คนละไม่ต่ำกว่า 4 แสนบาท ตอนแรกตนไม่หลงเชื่อแก๊งค์ดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา แก๊งค์ดังกล่าว มารับตนไปดูที่ดินดังกล่าว พร้อมกับมีชายอีกคนมาถามซื้อที่ดินด้วยเช่นกัน ทำทีเหมือนต้องการแข่งกันซื้อ
นางสมนึก เล่าให้ฟังต่อว่า แก๊งค์ตุ๋นดังกล่าวที่มี นางรุ่ง ไม่ทราบนามสกุล ได้มาจับขาและแขนของตน ทำให้ตนรู้สึกเคลิ้ม คิดไปตามแก๊งค์ตุ๋นดังกล่าว และเห็นดีเห็นงามที่ร่วมหุ้นในการเป็นนายหน้าซื้อที่ดินดังกล่าวด้วย โดยได้ให้นายชะอ้อน สามีไปเบิกเงินที่ธนาคารธกส.สาขาวัดโบสถ์ มาให้แก๊งค์ดังกล่าวจำนวน2 แสนบาท และทองคำอีก 8 บาท รวมค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 4 แสนบาท หลังจากนั้นแก๊งค์ดังกล่าวบอกว่าถ้าขายที่ดิน ที่ร่วมกันซื้อได้ก็จะนำเงินทุน และกำไรที่ได้มาให้ หลังจากนั้นไปดูอาคารพาณิชย์ในตลาดวัดโบสถ์อีกแห่งหนึ่งของลุงและป้าทีให้เช่าในตลาด เมื่อลุงกับป้าผู้เป็นเหยื่อลงไปในอาคารพาณิชย์ แก๊งค์คนร้ายก็ขับรถหนีไปทันที ลุงและป้ายังไม่ทราบถูกหลอกในช่วงนั้น กว่าจะรู้สึกว่าถูกหลอกนั้น ใช้เวลา 2 วันทีเดียว หลังจากนั้นจึงได้มาแจ้งความให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบทันที เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดจากธนาคาร เป็นผู้ชายสวมเสื้อสีขาวและผู้หญิงสวมเสื้อสีเขีมาให้นางสมนึก และนายชะอ้อน สองสามีภรรยาได้ชี้ตัวและยืนยันว่าเป็นผู้หลอกเงินและทองคำไป ซึ่งเมื่อนางสมนึกและนายชะอ้อน เห็นภาพ ก็สามารถชี้โฉมหน้าของแก๊งค์ตุ๋นรายนี้ได้เป็นอย่างดี เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามหาตัวแก๊งค์ตุ๋นป้ายยาสั่ง รายนี้มาดำเนินคดีต่อไป
////