เจ้าของบางแก้วกัดเด็กพร้อมรับผิดชอบ

 

จากเหตุการณ์สุนัขพันธุ์บางแก้วกัด ด.ญ.ต้นหลิว  ศรีดา อายุ 1 ปี 11 เดือน และนางรวิวัลย์  หวาง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่หมู่บ้านแม่ธรณีทอง ม.3 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามนายตี๋ หรือ นายไตรเวศน์ กมลเพชร เจ้าของสุนัขตัวดังกล่าว ได้เล่าว่า เจ้าบู้บี้ สุนัขที่ตนนำมาเลี้ยงมาตั้งแต่ยังตัวเล็กเล็กเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 53 โดยปกตินั้นเจ้าบู้บี้ จะเป็นสุนัขที่แสนรู้และฉลาด โดยเฉพาะที่ตนเองขับขี่รถจะเข้าบ้านนั้น เจ้าบู้บี้ ก็จะวิ่งกระโดดไปนั้งบนเก้าอี้พลาสติกสีแดงตั้วประจำ จนเพื่อนบ้านระแวกนั้นได้ตั้งฉายาให้ว่า “บู้บี้เก้าอี้แดง” เมื่อนั่งอยู่บนเก้าอี้ก็จะกระดิกหางพร้อมกับเห่าเรียกเจ้าของ คือตนก่อนที่จะเปิดรั้วบ้าน และเมื่อเปิดรั้วบ้านเสร็จเจ้าบู้บี้ก็จะวิ่งกระโดดหาตนด้วยอาการดีใจ ซึ่งจากการที่ตนเองเลี้ยงมานั้นเจ้าบู้บี้เป็นสุนัขขี้เล่น และฉลาด แต่ไม่ค่อยชอบเด็ก ถ้าเห็นเด็กจะกระโดดขึ้นกระโดดลง แต่ว่าประตูมันไม่พัง แต่ครานี้มันพัง

 

แต่ในวันที่เกิดเหตุ (26 ก.ย.55) นั้นตนไม่ทราบว่าเจ้าบู้บี้ทำไมถึงมีอาการที่ดุร้ายมากจนไปกัด ลูกและแม่ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านในระแวกเดียวกัน ซึ่งในวันเกิดเหตุ ตนได้ไปดูความเรียบร้อยที่ช่างสร้างบ้านมาสร้างบ้านต่อเติมให้ตน อีกหลังหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร และต้องทำความสะอาดบ้าน จนกระทั้งเมื่อช่วงบ่ายของวันดังกล่าว ตนได้ยินเสียงของเด็ก ร้องไห้ และได้ยินเสียงผู้หญิงร้องตามมา ตนจึงได้เดินออกไปดู และพบว่าเจ้าบู้บี้สุนัขบองแก้วของตนได้ถูกเพื่อนบ้านจับล็อกไว้ซึ่งตนเห็น นางรวิวัลย์  หวาง และ ด.ญ.ต้นหลิว  ศรีดา สองแม่ลูกนั้นมีเลือดไหลออกมาและมีแผลเหวอะหวะ บริเวณแขน ตนจึงได้วานเพื่อนบ้านอีกคนพา สองแม่-ลูกไปส่งที่โรงพยาบาลก่อน ซึ่งตนเองนั้นได้จับตัวเจ้าบู้บี้ลากไปผูกไว้ที่บ้านก่อนเพื่อไม่ให้เจ้าบู้บี้ไปกัดทำร้ายผู้อื่น และเมื่อลากเจ้าบู้บี้มาถึงหน้าบ้านก็รู้ว่าประตูรั้วเหล็กได้หลุดออกจากกันเป็นช่อง ตนจึงคิดว่าเจ้าบู้บี้จะกระโดดถึงประตูรั้วจนหลุดเพื่อไปหาตนแต่เข้าบ้านผิดจึงกัด สองแม่-ลูกเพื่อนบ้านของตนจนได้รับบาดเจ็บ และได้มัดเจ้าบู้บี้ไว้กับเสาปูนก่อนที่จะเดินทางไปดูอาการบาดเจ็บของนางรวิวัลย์  หวาง และ ด.ญ.ต้นหลิว  ศรีดา

ส่วน เจ้าบู้บี้ สุนัขพันธุ์บางแก้วตัวดังกล่าวนั้น ตนได้จัดการจำกัดด้วยตนเองแล้ว คิดว่าถ้าไม่ทำ ก็ต้องถูกคนอื่นทำ มาเห็นก็จะสงสารมันมากเข้าไปอีก หลังจากเกิดเหตุตนเองได้พาบู้บี้ขึ้นรถไปกลางทุ่งนาช่วงกลางคืน  และขยำข้าว น้ำ ให้กิน โดยตนได้นั่งมองสุนัขแสนรักตัวนี้ทั้งน้ำตา ก่อนที่จะเอามือจุ่มน้ำลูบหน้าบู้บี้ และใช้ปืนเล็งไปที่หัวเจ้าบู้บี้ และคิดว่าจะฆ่ามันหรือไม่ฆ่ามัน ทั้งที่ไม่อยากทำขณะที่คิดอยู่นั้นกระสุนปืนเกิดลั่นใส่เจ้าบู้บี้สิ้นใจไป หลังจากนั้นตนได้ใช้จอบขุดดินฝังเจ้าบู้บี้ทั้งน้ำตา ก่อนที่จะกลับบ้านนอน โดยที่ผ่านมายังคิดถึง บู้บี้และร้องไห้ อยู่เกือบทุกวัน ส่วนในผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นตนจะรับผิดชอบค่ารักษาบาดแผลให้อย่างแน่นอน โดยที่ตนไม่ได้คิดหนีหรือไม่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

แสดงความคิดเห็น