นายเจริญ โหลสกุล โยธาธิการและผังเมือง จ.พิษณุโลก พร้อมคณะเดินทางมาตรวจสอบพื้นที่บริเวณตลิ่งแม่น้ำน่าน บริเวณ หมู่ 2ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังได้รับความสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ให้มาตรวจสอบพื้นที่หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่า มีการขุดลอกตลิ่งสองฝั่งแม่น้ำน่าน และมีการนำเรือดูดทรายมาใช้ในการดูดทรายขึ้นไปถมพื้นที่ริมตลิ่ง หวั่นเกรงว่าตลิ่งอาจทรุดตัวสไลด์ลงแม่น้ำได้ ซึ่งจากการเดินทางมาตรวจสอบก็พบว่ามีการขุดลอกตลิ่งตามโครงการขุดลอกฟื้นฟูร่องน้ำที่ประสบอุทกภัย แม่น้ำน่านตอน 5 จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นการดำเนินการโดยกรมเจ้าท่า และอีกโครงการยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นหน่วยงานใด ว่าจ้างให้ บริษัท เอกชนแห่งหนึ่ง นำเรือดูดทรายดูดทรายในแม่น้ำน่านขึ้นไปถมพื้นที่ริมตลิ่ง ซึ่งตนจะได้ตรวจสอบไปยังสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาจังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง และรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกทราบด้วย
นายธีรยุทธ สุวรรณชัยรบ หัวหน้าคุมงานโครงการขุดลอกฟื้นฟูร่องน้ำที่ประสบอุทกภัย แม่น้ำน่านตอน 5 จ.พิษณุโลก กล่าวว่าโครงการขุดลอกฟื้นฟูร่องน้ำที่ประสบอุทกภัยแม่น้ำน่านตอน5 จ.พิษณุโลก เป็นโครงการเร่งด่วนของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และภัยแล้ง จึงจัดสรรงบประมาณให้ดำเนินการที่ จ.พิษณุโลก จำนวน 55.3 ล้านบาท ดำเนินการขุดลอกร่องน้ำแม่น้ำน่านระยะทาง 91 กิโลเมตร จำนวน 14 จุด เริ่มจากวัดใหญ่วงฆ้อง อ.พรหมพิราม สิ้นสุดที่ อบต.วัพริก อ.เมืองพิษณุโลก รวมระยะเวลาดำเนินการ 170 วัน สำหรับจุดที่ดำเนินการจะเลือกพื้นที่ทางโค้งของแม่น้ำน่าน ในการขุดดินเพื่อเป็นการพัฒนาริมตลิ่งให้สวยงาม ควบคู่กับการลดเหลี่ยมสันดอนดิน ลดมุมกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกัดเซาะตลิ่งฝั่งตรงข้ามจนพังทลายลงแม่น้ำ โดยคาดว่าหลังเสร็จโครงการแล้วจะทำให้การพังทลายของตลิ่งจะลดน้อยลง
ส่วนเรื่องการขุดทราย ดูดทรายกลางแม่น้ำน่านนั้น อยู่นอกเหนือโครงการทราบว่าเป็นเรื่องของโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพิษณุโลก แต่โดยปกติการดูดทรายในน้ำต้องได้รับอนุญาตจากทางเจ้าท่า ก็จะได้ประสานให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพิษณุโลก เข้าไปตรวจสอบ เพราะโดยปกติแล้วจะไม่อนุญาตให้มีการดูดทราย โดยเฉพาะใกล้จุดโครงการฯ เพราะอาจส่งผลกระทบให้ตลิ่งทรุดตัว สไลด์และเกิดการพังทลายลงได้