จากกรณีพบศพชายหนุ่ม อายุประมาณ 25-30 ปี ถูกยิงเข้าหลังศีรษะเสียชีวิต บริเวณริมถนนสายบายพาสพิษณุโลก-บึงพระ บ้านดงข่อย ม.3 ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก อยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 100 เมตรสภาพนุ่งกางเกงบล็อกเซอร์ลายสก็อตสีม่วง มีรอยสักเต็มแผ่นหลัง และตามร่างกายหลายแห่ง คาดน่าจะถูกสังหารแล้วนำศพมาทิ้งไว้ที่เกิดเหตุ ทราบชื่อต่อมานายพิชัย มาตมูล อายุ 17 ปี เบื้องต้นทราบว่าผู้ตายมีเรื่องทะเลาะกับแม่ยายเป็นประจำเพราะไม่ชอบลูกเขยคนนี้ ก่อนจะหายตัวไป แม่ยายพร้อมกับหลานชายได้ทำร้ายร่างกายผู้ตาย กระทั่งมีคนมาพบกลายเป็นศพ ตำรวจเตรียมออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันที่ 2 พฤศจิกายน 2555 พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.จว.พิษณุโลก ได้เดินทางไปควบคุมการทำแผนประกอบการรับสารภาพด้วยตนเอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.นฤชา สุวรรณลาภา รอง ผบก.พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.พ.ต.อ. พ.ต.อ.ธรธวัช แจ่มอุดมโชค ผกก.สภ. พ.ต.ท.วิสุทธิ์ คล้ายแสง รอง ผกก.สส. สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ได้ควบคุมตัวนายอนุชิน อินทร์บุหลั่น อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 240/2 ม.1 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยนายสมพงษ์ อินทร์บุหลั่น อายุ 24 ปี พี่ชายพักอยู่บ้านเดียวกัน หลังถูกจับกุม ตามหมายจับที่305/2555 และหมายจับที่ 306/2555 ศาลจังหวัดพิษณุโลก ลงวันที่ 1 พ.ย. 2555 ซึ่งมีส่วนร่วมในการสังหารนายพิชัย เพ็งชาวนา โดยแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ร่วมกันซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว

ทั้งนี้สืบเนื่องจากนายอนุชิน กับนายสมพงษ์ สองพี่น้อง ได้รับการว่าจ้างจากนายศรนรินทร์ สุขสุด นักโทษชายที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำคลองเปรมกรุงเทพ ได้โทรศัพท์ติดต่อนายอนุชิน ให้มาทำร้ายร่างกายและใช้ปืนยิงนายนายพิชัย ซึ่งเป็นน้องเขยของตนเอง เพราะโกรธแค้นแทนมารดา ที่น.ส.สุวิมล พลโต น้องสาวร่วมมารดา และเป็นภรรยาของนายพิชัย อ้างว่านายพิชัยไม่รับผิดชอบครอบครัว และชอบเที่ยวเตร่ พร้อมกับให้นายอนุชิน เป็นผู้ชี้เป้าให้กับผู้ต้องชายที่ยังหลบหนีอีกจำนวน 3 คน โดยเข้าไปลากตัวจากบ้านพัก ล็อกคอใช้ปืนขนาด 9 มม. จี้หัวพาขึ้นรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอด้า รุ่นแจ๊ส สีดำ ล้อแม็กสีทอง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เป็นป้ายกรุงเทพมหานคร ก่อนจะพาตัวไปยิงทิ้งที่จุดพบศพ

ก่อนจะพาตัวไปทำแผน เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ผู้ต้องทั้งสองคนใส่เสื้อกันกระสุน โดยจุดแรกตำรวจควบคุมตัวนายอนุชิน ผู้ต้องหาไปทำแผนที่บริเวณตลาดทรัพย์ไพรวัลย์ ตรงข้ามกับไปรษณีย์ ข้างร้านเครื่องเสียงรถยนต์ โดยนายอนุชินขี่รถจักรยานยนต์มารอบริเวณดังกล่าว ไม่นานได้มีคนร้ายเป็นชาย จำนวน 3 คน ขับรถยนต์ฮอนด้าแจ๊สมารับ เพื่อพานายอนุชินขึ้นรถไปชี้บ้านพักของนายพิชัย สำหรับจุดที่สองตำรวจควบตัวนายอนุชินไปชี้บ้านพักของนายพิชัย โดยมีนายสมพงษ์ พี่ชายนายอนุชิน รออยู่บริเวณหน้าบ้าน แจ้งให้กลุ่มคนร้าย 3คนว่านายพิชัยอยู่ในบ้าน ก่อนที่คนร้าย 3 คนจะเข้าไปล็อกตัวจากบนบ้านลงมา โดยใช้ปืนจี้ศีรษะบังคับเอาตัวไปขึ้นรถเก๋ง โดยมีนายอนุชินเดินตามหลัง ก่อนจะพาไปส่งนายพิชัยที่อู่ซ่อมรถบ้านหนองปรือ ม.1ต.บ้านกลาง
ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังจากเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จพอดี ปรากฏว่ามีกลุ่มญาติพี่น้องคนตายจำนวนมากเดินทางมาถึง พร้อมตะโกนด่าทอ พร้อมวิ่งหาตัวคนร้าย แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวขึ้นรถได้ทัน แต่กลุ่มญาติไม่ลดละพยายามจะติดตามไปทำร้ายร้างกาย ทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวเดินทางกลับอย่างเร่งด่วน ทำให้ญาติไม่พอใจ ตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้เห็นหน้าผู้ต้องหา และกล่าวด้วยความโกรธแค้นตามหลัง
แสดงความคิดเห็น