เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 4 เม.ย. 2556 ที่ห้องประชุมสภ.เมืองพิษณุโลก พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.ชวลิต ชาญเวชช์ ผบก.สส.ภ.6 พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก ร่วมกันแถลงข่าวผลงานการจับกุมผู้ต้องหา หลอกเรียกเก็บเงินจากกผู้เสียหายและประชาชน โดยอ้างตัวเป็นตำรวจภูธร , ตชด. 31 , เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด บก.ปส.3 และ อบต. สามารถตรวจยึดของกลาง มี โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง กล้องถ่ายรูป 1 ตัว คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 1 เครื่อง พระพุทธชินราชเลี่ยมทอง 1 องค์ พระถุงเงินถุงทอง 1 องค์ แหวนนาค 1 วง สร้อยคอ 3 เส้น สร้อยข้อมือ 2 เส้น และรถจักรยานยนต์ 1 คัน โดยเฉพาะทรัพย์สินที่เป็นทองนั้น หลังตรวจสอบปรากฏว่าเป็นทองคำเก๊ทั้งหมด
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผบช.ภ.6 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มีบุคคลแอบอ้างเป็นนายตำรวจ ยศ พ.ต.ท.ภานุวัฒน์ บุญนาค หรือรองวัฒน์ ตำรวจภาค 6 เป็นนายตำรวจหน้าห้องของ ผบช.ภ.6 ได้ไปเรียกเก็บเงินจากผู้ลักลอบเปิดพนันตู้ม้า จำนวน 200,000 บาท ได้รับเงินมาแล้วจำนวน 20,000 บาท ตลอดทั้งมีผู้เสียจำนวนหลายรายที่ถูกเรียกเก็บเงินจากนายตำรวจคนนี้ จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ชวลิต ชาญเวชช์ ผบก.สส.ภ.6 ดำเนินการติดตามสืบสวนโดยเร็ว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุอ้างชื่อเป็นนายตำรวจดังกล่าว ชื่อนายบัญญัติ สิงห์จันทร์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 ม.4 ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เคยต้องคดีฉ้อโกง 5 คดี ยักยอก 2 คดี กระทั่ง วันที่ 3 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวไปที่ถนนสิงหวัฒน์ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จากนั้นได้ควบคุมตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักเลขที่ 84/3 ม.8 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.โบว์(นามสมมุติ) รับราชการครู ซึ่งถูกนายบัญญัติหลอกว่าเป็น ตชด. และได้อยู่กินกันมานาหลายปี โดยไม่ทราบว่านายบัญญัติไม่เป็นตำรวจจริงมาก่อน
จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบของกลางภายในห้องพัก มี อาวุธปืนเทียม ขนาด 11 มม. (ปืนบีบีกัน) พร้อมซองพกสีดำ 1 ซอง กระสุนจริงขนาด .22 จำนวน 41 นัด และชุดเครื่องตำรวจยศ ร.ต.อ. แต่ไม่มีป้ายชื่อที่หน้าอก ชุดเครื่องแบบตำรวจตระเวนชายแดน กก.ตชด.31 ป้ายชื่อระบุ ร.ต.ท.สันติ แก้ว. หมวกแก๊ปตำรวจ 1 ใบ เสื้อ บก.ปส.3 จำนวน 1 ตัว และเข็มขัดตำรวจ 2 เส้น พินิจ และยังพบ เสื้อสีกากีแขนสั้น ฝ่ายปกครอง ติดเครื่องหมายมหาดไทย (คอสิงห์) อบต ไม่ติดป้ายชื่อ เบื้องต้นนายบัญญัติให้การว่าจะแขวนชุดราชการเอาไว้ในรถ เพื่อให้บุคคลอื่นเห็นว่าเป็นตำรวจ ขณะออกไปทำงาน
ขณะทำการจับกุมเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบว่า ร.ต.ท.สันติ แก้วพินิจ มีตนตนจริง ทำงานอยู่ที่ กก.ตชด.31 และได้มาแสดงตัวยืนยันไม่รู้เห็นกับการกระทำดังกล่าวของนายบัญญัติแต่อย่างใด พร้อมกับได้เข้าแจ้งความเอาไว้ถูกอ้างชื่อและทำให้เสื่อมเสียชื่อสียง
เบื้องต้นมีผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว จำนวน 6 ราย มี 1.ฉ้อโกงซื้อขายรถยนต์ ที่ จ.นครสวรรค์ หลอกเงินสดไป 100,000 บาท 2.ฉ้อโกงซื้อขายรถยนต์ ที่ จ.นครสวรรค์ หลอกเงินไป 270,000 บาท 3.หลอกชาว จ.ตาก ฝากเข้าเป็นตำรวจได้เงินไป 300,000 บาท 4.หลอกวิ่งเต้นถ่ายถอนรถจำนำ จำนวน 100,000 บาท 5.หลอกอู่รถ จำนวน 180,000 บาท และ 6.หลอกชาว สุโขทัย ว่าเป็นตำรวจภาค 6 ทำให้สาวหลงเชื่อเป็นภรรยาตั้งท้อง 9 เดือน ขณะนี้ยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายกำลังเดินทางมาชี้ตัวดำเนินคดีเพิ่มอีก
พล.ต.ท.วันชัย กล่าวว่า ผู้ต้องหาแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อ ว่าเป็นตำรวจจริง ส่วนเสื้อผ้าได้ให้ทางร้านตัดเย็บเสื้อผ้า โดยเห็นเสื้อของตำรวจนายหนึ่งไปตัดทิ้งเอาไว้ จึงได้นำชื่อดังกล่าวมาแอบอ้าง ตลอดทั้งอ้างว่าเป็นตำรวจยศ พ.ต.ท.อยู่หน้าห้องตน โดยอ้างตนให้เก็บตู้ม้า จำนวน 200,000 บาท และมีการจ่ายมาให้แล้ว 20,000 บาท ผู้ต้องหาจะทำตัวเหมือนคนมีฐานะใส่เครื่องทองให้น่าเชื่อถือ แต่เป็นทองปลอมทั้งหมด ส่วนเสื้อ อบต. อ้างว่าเพื่อนมาพักที่บ้านลืมเอาไว้ ส่วนการแอบอ้างช่วยให้เข้าเป็นตำรวจได้นั้นอย่าได้หลงเชื่อเด็ดขาด ขอให้ผู้เสียหาย ที่ทราบข่าวให้แจ้งความเพิ่มเติมเอาผิดได้