เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 10 ต.ค.2557 ที่สภ.เมืองพิษณุโลก พล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เรียกประชุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก หัวหน้าชุดสืบสวน คดีด.ช.ศุภชัย ธรรมานุพัตน์ หรือ น้องต๊อก อายุ 13 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/155 ถ.บรมไตรโลกนารถ 2 ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก ถูกจมน้ำเสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 เมษายน 25547 ที่ผ่านมา และมารดาน้องต็อกได้เรียกร้องให้สอบสวนใหม่ เนื่องจากมีพยานระบุว่ามีการทำร้ายร่างกายและโยนลงสระน้ำเสียชีวิต โดยแนวทางการสอบสวนในช่วงนั้น ไม่พบหลักฐานว่าเป็นคดีฆาตรกรรม แต่ล่าสุด ตุลาคม 2557 มารดาของน้องต๊อก ได้ไปร้องเรียนกับ คสช. ที่กรุงเทพ ว่าคดีลูกชายตนเสียชีวิตมีเงื่อนงำ และไม่ได้จมน้ำเสียชีวิตดังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปสำนวนคดี โดยทางเพื่อนลูกชายที่ไปเล่นน้ำด้วยกัน ชื่อเอ (นามสมมุติ) กลับยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือสังหารน้องต็อก จนเสียชีวิต ตามคำสั่งของกลุ่มวัยรุ่น เนื่องจากไปรู้เรื่องพัวพันเกี่ยวกับยาเสพติด
พล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 กล่าวว่า หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านได้เห็นข่าวว่ามีการร้องว่าคดีพลิกจากสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทำให้ตนเองต้องเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนใหม่เพื่อเตรียมเรียกสอบพยาน หลักฐานเพิ่มเติม ตามคำร้องขอของมารดาของน้องต๊อก เนื่องจากการสอบสวนในครั้งนั้นช่วงเดือนเมษายน น้องเอ เพื่อนของน้องต๊อกที่ไปเล่นน้ำด้วยกัน ไม่ได้ให้ปากคำ เกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด หากเป็นอย่างที่กลับคำพูดใหม่นั้น ก็ต้องเรียนสอบพยาน เพื่อค้นหาความจริง โดยจะเชิญแม่น้องต๊อก และเด็กที่อยู่ในที่เกิดเหตุทั้ง 2 คนมาสอบสวนเพิ่มเติม ร่วมสหวิชาชีพ ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับขบวนยาเสพติดนั้น ทางเจ้าหน้าที่ต้องรวบรวมพยานและข้อมูลตรวจสอบอีกครั้งเพื่อให้เป็นกระจ่างและไขข้อสงสัยทุกเรื่องให้หมด เนื่องจากการสอบสวนในเบื้องต้นไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงว่ามียาเสพติดเข้าเกี่ยวข้อง ซึ่งต้องรอเชิญแม่น้องต็อกและพยานมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง
กรณีดช.ศุภชัย ธรรมานุพัตน์ หรือ น้องต๊อก อายุ 13 ปี จมน้ำเสียชีวิต ในสระน้ำ หรือ บ่อดิน ใกล้เคียงหมู่บ้านบัวสีเงิน ม.2 ต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 เมษายน 2557 เป็นคดีที่ได้รับความสนใจติดตามจากชาวพิษณุโลกอย่างมาก และจนท.ตำรวจได้ใช้ความพยายามหาหลักฐานมาประกอบคดีอย่างหนัก ช่วงจมน้ำวันแรกน้องต็อก จมน้ำในสระ โดยมีเพื่อนไปด้วย 2 คน และจมน้ำเสียชีวิต วันนั้นบิดา-มารดา น้องต็อกไปที่เกิดเหตุด้วย และครั้งแรกเป็นคดีจมน้ำเสียชีวิตเอง เมื่อนำร่างน้องต็อกไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดท่ามะปราง อ.เมืองพิษณุโลก โดยกำหนดฌาปนกิจในวันที่ 7 เมษายน 2557 ปรากฏว่า ก่อนวันเผาศพ 1 วัน น้องเอ ( นามสมมติ ) เพื่อนของน้องต็อกที่ไปที่สระน้ำได้บอกกับมารดาของน้องต็อกว่า มีกลุ่มวัยรุ่นมารุมทำร้ายน้องต็อกที่ขอบสระ และโยนร่างของน็อกลงน้ำไปกระทั่งจมน้ำเสียชีวิต จากนั้น มารดาของน้องต็อก ได้ร้องเรียนสื่อมวลชน และร้องเรียนผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก จนนำมาสู่การสอบสวนใหม่ โดยมารดาและบิดาของน้องต็อก ได้เลื่อนการเผาร่างน้องต็อกออกไปก่อน ทางพนักงานสอบสวนสภ.เมืองพิษณุโลก และตำรวจภูธรภาค 6 จึงเรียกสอบพยานทั้งหมด และผู้ที่ถูกพาดพิง ตำรวจได้สอบทั้งพยานบุคคล กลุ่มวัยรุ่นที่ถูกพาดพิงถึง และดช.บี พยานปากเอกอีกหนึ่งคน ที่ไปที่สระน้ำด้วยกัน แต่ให้การต่างกับดช.เอ โดยให้การว่าดช.ต็อกจมน้ำเอง
และต่อมา ทางมารดาของน้องต็อกได้ร้องเรียนไปยังมูลนิธิปวีณาฯ และนำไปสู่การชันสูตรอีกรอบ และมีกระบวนการสอบสวนพยานร่วมกับสหวิชาชีพ ทั้งอัยการ พัฒนาสังคมของมนุษย์ รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกนายระพี ผ่องบุพกิจ ในครั้งนั้น จนท.ตำรวจได้สอบสวนใหม่ทั้งหมด โดยแนวทางในการสืบสวนได้ตั้งโมเดลไว้ 4 โมเดล คือ โมเดลที่ 1 เด็กจมน้ำเสียชีวิตระหว่างลงเล่นน้ำเอง โมเดลที่ 2 เด็กลงเล่นน้ำและถูกกลุ่มคนร้ายเรียกขึ้นมาทำร้ายจากนั้นโยนทิ้งสระน้ำเสียชีวิต โมเดลที่ 3 เด็กทั้ง 3 คนมาเล่นกันหยอกล้อกันแล้วเป็นเหตุให้น้องต๊อกเสียชีวิต และ โมเดลที่ 4 น้องต๊อกถูกทำร้ายมาจากที่อื่นก่อนที่จะลงเล่นน้ำ ซึ่งประเด็นทั้ง 4 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนจะหาพยานหลักฐานมาชั่งน้ำหนักและพิจารณาสำนวนประกอบกับรอผลการชันสูตรอย่างเป็นทางทางการทั้งจากนิติเวชรพ.ม.นเรศวร ที่ชันสูตรศพชั้นต้น และสถาบันตินิวิทยา รพ.ตำรวจ ที่ผ่านชันสูตรอีกรอบหนึ่ง มาประกอบการพิจารณาคดี สุดท้าย การสอบสวนของพนักงานสอบสวน ไม่มีหลักฐานที่ชี้ชัด ว่าน้องต็อก ถูกมาตกรรม และเชื่อมโยงไปเกี่ยวกับยาเสพติด
กระทั่งล่าสุด 9 ตุลาคม 2557 นางกัลยา เกตุนาวา ได้ร้องเรียนคสช.ให้สอบสวนใหม่ ออกมาให้ข่าวสื่อมวลชนว่าดช.เอ ได้สารภาพ ว่าเป็นผู้ร่วมทำร้ายน้องต็อกจนกระทั่งจมน้ำเสียชีวิต และนำมาสู่การประชุมของตำรวจภูธรภาค 6 อีกครั้งเกี่ยวกับคดีน้องต็อกในวันนี้
//////