ตรวจสอบชาวบ้านทำกินในป่าเตรียมการเป็นอช.แก่งเจ็ดแคว

1พันเอกโอฬาร หาญสุรภานนท์ รองผอ. กอ รมน.พิษณุโลก จนท.อุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแคว สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 พิษณุโลก เดินทางไปตรวจสอบป่าสวนเมี่ยง อ ชาติตระการ พิษณุโลก ตามหนังสือจากราษฎร หมู่3 ต.สวนเมี่ยง อ ชาติตระการ พิษณุโลก ร้องเรียนว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐและผู้นำท้องถิ่นตำบลสวนเมี่ยงไปตรวจสอบการถือครองที่ดินพร้อมจัดทำบันทึกผ่อนผันให้ราษฎรทำกินมีกำหนด 2 ปีอย่างไม่เสมอภาค ทั้งนี้ราษฎรหลายคนเกรงว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะมีผู้บุกรุกทำกินหลายแปลง ในเขตพื้นที่เตรียมการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแคว แต่มีการผ่อนปรน ไม่เหมือนกัน   2

กำลังชุดทหารจาก กอ. รมน.พิษณุโลกตรวจสอบชาวบ้านจำนวน 13 รายที่มีแปลงที่ดินทำกินอยู่กลางป่าเตรียมการ อช.สวนเมี่ยง พบว่า มีไร่ข้าวโพด, ไร่มันสำปะหลังและสวนยางพารา จึงได้ตรวจสอบสถานะผู้เข้าทำประโยชน์เบื้องต้น ถึงการเข้าครอบครองก่อนหรือหลัง 30 มิ.ย 41 อย่างไร พร้อมประสานจนท.ป่าไม้นำภาพถ่ายพิกัดดาวเทียมปี 45 มาเปรียบเทียบ แต่ไม่มีการตรวจยึดหรือจับกุมดำเนินคดีแต่อย่างใด  จะต้องรอคณะกรรมการระดับจังหวัดพิจารณาต่อไป3

พ.อ.โอฬาร หาญสุรภานนท์  รอง ผอ.กอ.รมน.พิษณุโลก เปิดเผยว่า การลงพื้นที่วันนี้ ยังไม่ได้จับกุมหรือตรวจยึด เนื่องจากคำสั่ง คสช.ให้ชะลอไว้ก่อน แม้ว่าราษฎรบางรายมีการซื้อขายเปลี่ยนมือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนเพื่อปลูกสวนยางจำนวนหลายปี ทำได้เพียงแจ้งสิทธิ์ตักเตือนและบอกกล่าวถึงความผิดตามข้อหาตามพรบ.ป่าไม้ นับจากนี้ต่อไปจะต้องดำเนินการกลุ่มผู้บุกรุกให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน หากจับกุมดำเนินคดี ก็ต้องกระทำทั้งหมด เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ราษฎรโดยเฉพาะราษฎรผู้ยากไร้เท่านั้น แต่ไม่ใช่ผู้มีอันจะกิน ซึ่งกรณีผู้บุกรุกเป็นนายทุน หากตรวจพบจะถูกจับกุมทันที 5

กอ.รมน.วางหลักการเบื้องต้น คือ สั่งการให้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลกเดินสำรวจสิทธิ์ถือครองของราษฎรทุกตำบลในพื้นที่ป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ว่า ทำกินกี่ไร่ อยู่ในเขตป่ากี่ไร่ เป็นผู้ยากไร้หรือเป็นราษฎรมีถิ่นฐานเดิมหรือไม่ โดยเลือกตำบลนำร่อง 1 แห่งแต่ละผืนป่า เพื่อสำรวจสิทธิ์ถือครอง( ลักษณะเหมือน 30 มิย 41) เพียงแต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ทั้งหมดทุกตำบล ทุกหมู่บ้านทั่วพิษณุโลก เนื่องจากไม่มีงบประมาณและระยะเวลาเพียงพอเดินสำรวจ แต่หากสำเร็จ จะนำแนวทาง 1 ตำบลนำร่องดังกล่าว เป็นต้นแบบจากนั้นนำเสนอจังหวัดพิจารณาสำรวจตำบลที่เหลือต่อไป

เบื้องต้นเดือนธันวาคม 57 นี้ จะทราบว่า ผลการสำรวจสิทธิ์ราษฎรทำกินในเขตป่าในตำบลนำร่อง ว่า มีผลเป็นอย่างไร  อาทิ พื้นที่ ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย ทราบแล้วว่า มีคนทำกินในเขตป่าสงวนจำนวน 9,800 ไร่ หากราษฎรทำกินมาก่อนเมื่อเปรียบเทียบภาพดาวเทียมปี 45 แล้ว ถือว่าถูกต้อง แต่มั่นใจว่า จะมีพื้นที่อีกส่วนหนึ่งที่ไม่ถูกต้อง ลักษณะบุกรุกหรือเปิดพื้นที่ใหม่  ชาวบ้านจะต้องคืนพื้นที่ทำกินแก่รัฐ กระทั่งรวมผลตรวจพบหลายๆตำบล ก็เชื่อว่า จะสามารถคืนผืนป่าแก่แผ่นดินได้แน่นอน

—————————————————–

แสดงความคิดเห็น