แม่ยายพาตำรวจรวบลูกเขยลักสับปะรดหวังให้เมียมาคืนดี

ลักสับปะรด (1)เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มี.ค. 59  ที่สภ.นครไทย จ.พิษณุโลก นางประไพ  ดวงพรม อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.19 บ้านห้วยแก้ว ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ปฏิพัทธ์  อินทร์หน่อ ร้อยเวรสอบสวน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมคนขโมยสับปรดภายในไร่ที่ปลูกเอาไว้  ซึ่งขณะแจ้งความกำลังขนสับปรดใส่รถปิกอัพ378773หลังรับแจ้งความ จึงแจ้งให้ ร.ต.อ.มานิต ล้อสินค้า รอง สวป. ร.ต.ท.วินัย  อินนุ่ม รอง สวป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวนหนึ่ง รุดไปยังบริเวณไร่ของนางประไพ บริเวณบ้านห้วยแก้ว ม.19 ห่างจากถนนสายนครไทย-บ้านเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่พบชาย 2 คน กำลังช่วยกันขนสับปรดใส่ท้ายรถปิกอัพจนเต็มคัน โดยมีนางประไพชี้ให้จับตัว ว่าเป็นขโมยที่เข้ามาลักสับปรดของตนที่ปลูกเอาไว้  โดยทราบชื่อนายวันชนะ กองแก้ว อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 ม.19 บ้านห้วยแก้ว ต.หนองกระท้าว จ.พิษณุโลก พร้อมด้วย นายบี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี จึงทำการควบคุมเอาไว้  พร้อมสับปรดเต็มกระบะรถยนต์ น้ำหนัก 800 กิโลกรัม ราคาประมาณ 5,000 บาทลักสับปะรด (4)

จากการสอบสวนนายวันชนะ ให้การรับสารภาพว่าตนตั้งใจมาขโมยสับปรดในไร่ของนางประไพ ซึ่งเป็นแม่ยายของตน เนื่องจากไม่พอใจหลังจากถูกเมียทิ้งไปนาน 2 เดือนแล้ว ด้วยความโมโหจึงทำประชด  ได้มาลักตัดสับปรดในไร่ของแม่ยายตันเอง เพื่อต้องการให้เมียกลับมาคืนดี เท่านั้น หากเมียกลับมาจะเอาเงินที่ขายสับปรดคืนให้แม่ยายอีกทีลักสับปะรด (7)

ด้านนางประไพ กล่าวว่า นายวันชนะ อยู่กินกับลูกสาวมานานแล้ว จนมีลูกด้วยกัน 1 คน แต่ภายหลังลูกเขยไม่ยอมทำมาหากิน จนลูกสาวเอื้อมระอาใจ กระทั่งทิ้งและหนีไปหางานทำที่อื่น โดยปล่อยให้ลูกเขยอยู่เพียงตามลำพัง  ช่วงหลังประพฤติตัวไม่ดี  ทำให้ลูกสาวทิ้งไปดังกล่าวลักสับปะรด (8)ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมนายวันชนะไปตรวจปัสสาวะ พบเป็นสีม่วงและรับสารภาพว่าเสพยาบ้า จึงน้ำตัวไปดำเนินคดี ส่วนนายบี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะนายวันชนะไปว่างจ้างมา และไม่รู้กับการขโมยของนายวันชนะ จึงกันตัวเอาไว้เป็นพยาน ส่วนรถยนต์นายวันชนะขอยืมเพื่อนบ้านมาใช้ชั่วคราว ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเช่นกันลักสับปะรด (9)

แสดงความคิดเห็น