เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 14 พ.ค. 2559 ร.ต.อ.ชูศักดิ์ บุญส่ง พนักงานสอบสวน สภ.อ.วังทอง รับแจ้งมีคนสูญหายภายในน้ำบริเวณบึงราชนก อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พบเพียงแกลลอนน้ำมันลอยอยู่เหนือน้ำ และพบร้องเท้าผู้สูญหายถอดกองวางอยู่ริมบึงน้ำ จึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพา รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านกำลังช่วยกันงมค้นหาร่างผู้เสียชีวิตและพบผู้เสียชีวิตสภาพศพลอยติดข่ายอยู่กลางน้ำภายในบึงน้ำขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงทำการกู้ข่าย และนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้้นมาเพื่อให้แพทย์ ทำการชันสูตรพลิกศพ โดยทราบชื่อผู้ตายต่อมาคือ นายชูศรี พรมมา 65 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 6 ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก สภาพศพเสียชีวิตมาแล้วอย่างน้อย 6 ชั่วโมง ลำตัวขาวซีด
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าผู้ตายมีอาชีพลงข่ายหาปลา และได้ออกจากบ้านมาตั้งแต่ช่วง 3 ทุ่มของเมื่อคืนที่ผ่านมา จนกระทั่งรุ่งเช้า ญาติเห็นผู้ตายหายตัวไป จึงได้ออกตามหาจนกระทั่งมาพบแกลลอนน้ำมัน และรองเท้าผู้ตายถอดไว้อยู่ริมบึง จึงเชื่อได้ว่าผู้ตายน่าจะจมน้ำ ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันงมค้นหาจึงได้พบศพผู้ตายลอยติดข่ายอยู่ เบื้องต้นเชื่อว่าผู้ตายซึ่งมีอายุมากประกอบกับอากาศที่ร้อนจัด น่าจะเป็นลม และพลัดตกแกลลอนน้ำมันที่ใช้เกาะลอยตัวสำหรับลงข่าย จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ส่งศพผู้ตายให้แพทย์ทำการชันสูตรอีกครั้งอย่างระเอียด ก่อนมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
อีกรายเวลาเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุ191 พิษณุโลก รับแจ้ง ว่ามีคนจมน้ำสูญหาย ในขณะลงเล่นน้ำภายในแม่น้ำบริเวณสถานที่เล่นน้ำแม่น้ำน่าน หน้าวัดเกาะแก้ว ตำบลจอมทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เบื้องต้นผู้สูญหายเป็นชาย อายุประมาณ 25 ปี ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานจังหวัดพิษณุโลก จัดทีมประดาน้ำเดินทางไปเพื่อทำการงมค้นหาร่างชายดังกล่าว จนกระทั่งค่ำก็ยังไม่พบแต่อย่างใด
จากสภาพอากาศที่ร้อนสูงถึง 42 องศา ทำให้ประชาชนต่างหาสถานที่ลงเล่นน้ำคลายร้อนโดยเฉพาะบริเวณหน้าวัดเกาะแก้ว ตำบลจอมทอง ถือเป็นอีกสถานที่หนึ่ง ที่มีประชาชนเดินทางมาเล่นน้ำคลายร้อนกันเป็นจำนวนมาก โดยจะมีชาวบ้านและกรรมการวัดซึ่งเป็นผู้ดูแลจัดสถานที่ คอยดูแล มีการวางทุ่นแจ้งเตือนระดับความลึกของน้ำ และกำหนดเขตพื้นที่เล่นน้ำ แต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์ สลดกับนักท่องเที่ยว ซึ่งคงต้องช่วยกันดูแล และหาทางแก้ไขกันต่อไป
//////////