วันที่ 26 พฤษภาคม 2560 ที่โรงแรมอมรินทร์ลากูน จังหวัดพิษณุโลกนายวัส ติงสมิตร ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดการสัมมนาในหัวข้อ การแก้ไขปัญหาที่ดินและป่าไม้ทั้งระบบ ภายหลังมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากการปฏิบัติตามมาตรการทวงคืนผืนป่าจากคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ร้องเรียนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ถึง 45 เรื่องร้องเรียน โดยการสัมมนาที่จังหวัดพิษณุโลกนับเป็นครั้งแรก ในพื้นที่ 4 ภาค จากนั้นจะลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ภาคละ 1 เดือน ก่อนรวบรวมข้อมูลเสนอนายกรัฐมนตรี 
นายวัส ติงสมิตร ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ ภาคเหนือ ที่ จ.พิษณุโลก ราษฎรจำนวนมากที่ร้องเรียนระบุว่า จากการปฏิบัติตามมาตรการทวงคืนผืนป่าจากคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 64/2557 และที่ 66/2557 พบว่า ประชาชนไม่สามารถเข้าทำประโยชน์ในที่ดินที่ครอบครองได้อย่างปกติสุข ถูกขับไล่ถูกจับกุมถูกดำเนินคดีในฐานความผิดตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ป่าสงวนแห่งชาติและหรือกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติและบางพื้นที่ราษฎรได้รับความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่มีการข่มขู่คุกคามต่อชีวิตและเสรีภาพ และยึดทำลายพืชผล ทรัพย์สินของผู้เรียกร้องโดยไม่มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ต้องปกป้องทรัพยากรป่าไม้เพื่อไม่ให้มีการบุกรุกทำลายป่า ซึ่งคณะอนุกรรมการด้านสิทธิในที่ดินและการจัดการทรัพยากรป่าไม้ซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติให้เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องเรียกร้องดังกล่าวจึงได้รวบรวมปัญหาและศึกษาค้นคว้าหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสิทธิในที่ดินสิทธิในทรัพย์สินของบุคคลอันเกี่ยวเนื่องกับที่ดินและการจัดการทรัพยากรป่าไม้ เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะมาตรการ แนวทางในการ ปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ในการแก้ไขปัญหาเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตอุทยานแห่งชาติกับที่ดินเอกชนทับซ้อนกัน และกรณีราษฎรได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการทวงคืนผืนป่าตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
บรรยากาศภายในการสัมมนา ครั้งนี้ นายวัส ติงสมิตร ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้รับเรื่องร้องทุกข์จาก นายพิทักษ์วงศ์วารสิริ ประธานเครือข่ายประชาชนพื้นที่สูง ม้ง กะเหรี่ยง มูเซอ จังหวัดตาก และตัวแทนชาวบ้าน ที่เดินทางมายื่นหนังสือภายในงานดังกล่าว โดยระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่อุทยานได้ไปติดป้าย ปักหลัก ตรวจยึด พื้นที่ของประชาชน เนื่องจากก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่อุทยาน ทหาร ได้ใช้แผนที่ทหารปี 2545 ได้ไปพิสูจน์สิทธิแล้ว มีร่องรอยการทำกินและเป็นพื้นที่สีเขียวตามมติครม.เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 เป็นพื้นที่ผ่อนปรนให้ประชาชนเข้าไปทำกินได้ แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปดำเนินการติดป้ายและปักหลักว่าห้ามชาวบ้านเข้าไปทำกินโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนถูกจับดำเนินคดีตามกฎหมาย ทำให้ชาวบ้านในเขตบ้านผึ้งตำบลเชียงทอง อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก ผู้เดือดร้อน จึงขอส่งหนังสือให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รับเรื่องร้องทุกข์ และเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาให้ประชาชนต่อไป