เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองพันซ่อมบำรุงที่ 23 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยมี พันเอก เอกพงศ์ สุวรรณเวียง ผู้บังคับกองพัน ซ่อมบำรุงที่ 23 ได้ดำเนินการต่อเนื่อง ตามมีโครงการทหารพันธุ์ดี ในการเพาะปลูกพันธุ์พืชทางการเกษตร ผัก ผลไม้ ที่จะนำสินค้าทางการเกษตรป้อนเข้าสู่ความต้องการของตลาด โดยเฉพาะแต่ละวันจะมีผักสดหลายชนิด ออกมาวางจำหน่ายเกือบทุกวัน ทั้งเป็นการจำหน่ายให้กับหน่วยทหารอื่น ที่จะนำไปประกอบอาหารให้กับทหารในแต่ละหน่วย และครอบครัวของทหารซื้อได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาด เป็นการช่วยเหลือในค่าครองชีพ ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีรายได้น้อย พร้อมกับส่งเสริมให้ครอบครัวภายในค่ายทหาร ปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในแต่ละวันไปได้มาก
นอกจากนั้นทางกองพันซ่อมบำรุงที่ 23 ได้จัดให้มีการนำสินค้าทางการเกษตร เฉพาะผักสดที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน อาทิ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ผักบุ้งจีน ผักคะน้า บวม พืชตระกูลถั่วฝักยาว บวบ ฟักแฟง มะเขือเปราะ กะเพราพริก และยังมีผักอีกหลายชนิด นอกจากนั้นยังมีไข่ไก่ ไข่เป็ด ไว้จำหน่ายให้กับผู้ที่ต้องการสินค้าทางการเกษตรที่ปลอดสารภัย และราคาถูกกว่าท้องตลาดมาก จนทำให้สินค้าไม่พอเพียง จึงต้องจัดสรรนำสินค้าออกจำหน่ายในแต่ละจุด ให้มีความพอเพียงกับความต้องการของประชาชน
พ.อ.เอกพงศ์ สุวรรณเวียง เปิดเผยว่า โครงการทหารพันธุ์ดีเริ่มมาตั้งแต่ ปี 2558 หลังจากนั้นในปี 2562 ได้นำผลิตภัณฑ์สินค้าทางการเกษตรออกมาจำหน่ายโดยทั่วไป หลังจากเจอสถานการณ์โควิด ทางหน่วยกองพันซ่อมบำรุงได้นำผัก จำพวก มะเขือเทศ แตงกวา ผักบุ้ง ผักกาดขาว ผักกาดหอม ผักสลัด และอีกหลายชนิด รวมทั้งเมล็ดพันธุ์ผัก นำออกมาจำหน่ายให้กับประชาชน และกำลังพลที่อยู่ในค่าย เพื่อได้รับประทานผักที่สด สะอาด และปลอดภัย
ผู้บังคับกองพันซ่อมบำรุงที่ 23 กล่าวว่า ทุกๆเช้าตอนตี5 ครึ่ง ทางหน่วยจะมีเจ้าหน้าที่นำผักผลิตภัณฑ์ของทางหน่วย ไปจำหน่ายที่โรงพยาบาลพุทธชินราช หลังจากนั้นจะนำไปจำหน่ายที่ตลาดนัดหน้าค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ และวางจำหน่ายที่ร้านกาแฟข้างกองพันธุ์ซ่อมบำรุงตลอดทั้งวัน ทำให้ขายหมดแทบทุกวัน และมีคนสั่งเอาไว้ล่วงหน้าเอาไว้ทุกวันเหมือนกัน
“สำหรับวันนี้ ทางกองพันซ่อมบำรุงที่ 23 ได้นำสินค้าทางการเกษตรมาจำหน่ายที่ บน ห้างสรรพสินค้าท้อปแลนด์พล่าซ่า เนื่องจากมีการประชุมของหลายหน่วยงาน เพื่อให้ผู้ที่มาเข้าร่วมประชุมจากที่ต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นจำนวนหลายร้อยคน สามารถได้เลือกซื้อผักสดที่คัดมาอย่างดี เพียงราคาถุง 10 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นการเปิดตลาดในเชิงรุกอีกรูปแบบหนึ่ง ทำให้ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี จนสินค้าทางการเกษตรไม่พอต่อความต้องการ เนื่องได้สินค้าถูกคุณภาพดีปลอดสารพิษอีกด้วย” พ.อ.เอกพงศ์ กล่าว
