เมื่อวันที่ 19 .ค. 66 ที่ว่าการอำเภอเมืองพิษณุโลก นายอัครโชค สุวรรณทอง นายอำเภอเมืองพิษณุโลก ได้เปิดเผยว่า ตนได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือ ผู้กองปูเค็ม นักเคลื่อนไหวคนดัง ต่อ พ.ต.ท.สันตศิริ เมตตาวงศ์ รอง ผกก.สอบสวน อ.เมือง จ.พิษณุโลก ในข้อหา หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียแก้ผู้อื่น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา ครั้งที่ 1 ลงวันที่ 18 ธันวาคม 2566
สืบเนื่องจากที่ ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล ได้ไปไลฟ์สดที่หน้ากระทรวงมหาดไทย และใน เฟซบุ๊ก ถึงรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ว่าตนเองเป็นลูกบ้าน หมู่ 7 ต.สมอแข อ.เมือง พิษณุโลก ได้รับความทุกข์จากการที่ฝ่ายปกครอง และท้องถิ่น ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ลำเอียง ไม่ยุติธรรม และเป็นผู้มีอิทธิพล โดยอ้างปัญหาการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา กล่าวหาย้ายหน่วยเลือกตั้ง มีการย้ายหน่วยเลือกตั้งในเวลากลางคืน ใช้ยานพาหนะราชการขนคนไปลงเลือกตั้ง
นอกจากานั้น ยังกล่าหาว่า การจัดสรรงบประมาณลำเอียง โดยไม่คำนึงถึงจำนวนประชากรในแต่ละหมู่บ้าน มีการลัดคิวโครงการ ทั้งในระดับ อบต.สมอแข และในระดับหมู่บ้าน และไม่มีการตั้งคณะทำงานด้านแผนพัฒนาหมู่บ้าน พร้อมทั้งได้กล่าวหานายอำเภอเมืองพิษณุโลก เอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายบริหาร อบต.สมอแข
นอกจากนั้น ขอให้ตรวจสอบสมาชิกภาพ ของสมาชิกสภา อบต.หมู่ 7 ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก โดยกล่าวหาว่านายอำเภอเมืองพิษณุโลกประวิงเวลา ไม่ดำเนินการส่งเรื่องให้กับทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณา พร้อมกับระบุถึงการบุกรุกที่สาธารณะ ในพื้นที่ อบต.สมอแข หลายแห่ง โดยอ้างว่าทางนายอำเภอมีเจตนาประวิงเวลาตรวจสอบข้อมูล
นายอัครโชค สุวรรณทอง นายอำเภอเมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือถึง ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 เพื่อให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้น พร้อมมอบคลิปไลฟ์สดเป็นหลักฐาน ประเด็นต่างๆตนได้ชี้แจงกับทางผู้ว่าราชการจังหวัด และได้ทำเรื่องชี้แจงต่อปลัดกระทรวงเรียบร้อยแล้ว ช่วงเกิดเหตุตนกำลังประชุมประจำเดือน ทางผู้ใต้บังคับบัญชาได้แจ้งให้ทราบ จึงได้เข้าไปดูทั้งในเฟสบุ้คอีกด้วย จึงแจ้งข้อหาหมิ่นประมาณเอาภาพลงคอมพิวเตอร์บิดเบือนอันเป็นเท็จ และ ดูหมิ่นเกียรติศักดิ์ศรี และยังถูกร้องเรียนว่าตนเป็นผู้มีอิทธิพล บางประเด็นอยู่ในการสอบสวนตามขั้นตอน ซึ่งส่วนมากเป็นเรื่องกล่าวหาเกี่ยวกับ อบต.สมอแข ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.สมอแข และการให้นายอำเภอวินิจฉัยสมาชิกภาพ ของสมาชิก อบต.สมอแข รายหนึ่ง ได้มีการตั้งกรรมตรวจสอบแล้ว ตนจึงได้ใช้ดุลพินิจเห็นพ้องตามที่คณะกรรมการได้ตัดสิน และคำสั่งทางปกครองต้องละเอียดรอบครอบ จึงได้หารือทางไปท้องถิ่นจังหวัด ว่าความเห็นของอำเภอต่อกรณีนี้ถูกต้องไหม ทำ ให้เกิดความคิดว่าตนถ่วงเวลา
นายอำเภอเมืองพิษณุโลก กล่าวอีกว่า ตนเพิ่งมารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2565 แต่มีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านมีมาตั้งแต่ 2 พ.ค. 2561 ผ่านมา 5 ปีแล้ว ตรวจสอบทราบว่า มีการแบ่งหน่วยเลือกตั้งตามเลขที่บ้าน จำนวน 3 หน่วย เพราะมีประชากรเกือบ 4 พันคน กล่าวหาว่ามีการย้ายหน่วยเลือกตั้ง การเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านครั้งนั้น ตอนนั้นตนยังไม่ได้มาเป็นนายอำเภอเมืองพิษณุโลก เรื่องทุกอย่างข้อมูลจบไปแล้ว แต่เอาเรื่องกลับมาบิดเบือนใหม่