วันที่ 17 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าว จ.พิษณุโลก นำเสนอเรื่องราวสุดสะเทือนใจแต่เปี่ยมด้วยพลังแห่งความรัก ความเสียสละ และความหวัง เมื่อนางสาววาริพิณ อุดมสุข อายุ 31 ปี ชาวบ้าน ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก ต้องเผชิญกับการสูญเสียลูกชายอันเป็นที่รัก “น้องภูมิ” ด.ช.ธนวิชญ์ อุดมสุข วัยเพียง 14 ปี จากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์เมื่อเช้ามืดวันที่ 15 เมษายน 2568 ที่ผ่าน จากอุบัติเหตุรถยนต์กระบะ พุ่งชน รถจักรยานยนต์ ที่ลูกชาย พร้อมด้วยเพื่อนอีก 2 คน กำลังดันข้ามเกาะกลางถนน ในพื้นที่ ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก อย่างจัง จนทำให้เพื่อนของลูกชาย วัย 14 ปี เสียชีวิตทันที่ในที่เกิดเหตุ 2 ราย ส่วนน้องภูมิ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล แต่ด้วยหัวใจของความเป็นแม่ เธอเลือกเปลี่ยนความเศร้าให้เป็นบุญกุศลยิ่งใหญ่ ด้วยการบริจาคอวัยวะของลูกชายเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยคนอื่นอีก 4 รายให้ได้มีชีวิตใหม่ จนเพจเฟสบุ้คโรงพยาบาลพุทธชินราช ได้ประกาศชื่นชมในการบริจาคอวัยวะ สร้างบุญกุศลใหญ่ บริจาคอวัยวะต่อชีวิต 4 ชีวิต
นางสาววาริพิณฯ แม่ของน้องภูมิ ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 13 เมษายน น้องภูมิขออนุญาตแม่ไปเล่นน้ำสงกรานต์กับกลุ่มเพื่อน ตนเองยังย้ำเตือนลูกเสมอให้เล่นด้วยความระมัดระวัง และยังแชทไลน์พูดคุยกับลูกตลอด แม้ในวันที่ 14 จะชวนลูกมาเล่นสงกรานต์กับครอบครัว แต่น้องภูมิขอเล่นกับเพื่อนเป็นวันสุดท้าย โดยให้สัญญาว่าวันที่ 15 จะมาเล่นกับแม่ และจะพาเพื่อน ๆ มาด้วย ตนเองยังถามอย่างเอ็นดูว่า “เพื่อนจะมานอนด้วยไหม จะได้เตรียมที่นอนไว้ให้”
แต่แล้วทุกอย่างกลับพลิกผัน เมื่อเวลาประมาณตี 1 ของวันที่ 15 เมษายน เพื่อนของน้องภูมิใช้โทรศัพท์ของลูกโทรมาแจ้งแม่ว่าเกิดอุบัติเหตุ และให้นางสาววาริพิณรีบไปที่เกิดเหตุทันที เมื่อถึงที่เกิดเหตุก็ทราบว่า น้องภูมิ ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช แพทย์พบว่าอาการของน้องสาหัสมาก ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ไม่รู้สึกตัว และต้องเข้าห้อง ICU โดยแพทย์ประเมินว่าโอกาสรอดอยู่ที่ 50/50
ท่ามกลางความทุกข์ใจและความหวังที่ริบหรี่ นางสาววาริพิณได้รับการติดต่อจากศูนย์รับบริจาคอวัยวะ โรงพยาบาลพุทธชินราช ว่าหากน้องเสียชีวิต ร่างกายของน้องยังสามารถช่วยต่อชีวิตให้กับผู้อื่นได้ ตนเองจึงตัดสินใจด้วยหัวใจของแม่ว่า “ถ้าร่างกายลูกยังมีประโยชน์ต่อลมหายใจของคนอื่น แม่ก็ยินดี เพราะอยากให้ลูกได้บุญใหญ่ที่สุดก่อนจะจากไป”
และในเย็นวันเดียวกัน น้องภูมิได้จากไปอย่างสงบ ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว แต่ก็ทิ้งไว้ซึ่งสิ่งที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ “การให้” เพราะอวัยวะของน้อง ได้แก่ ไต 2 ข้าง และดวงตา 2 ข้าง ได้ถูกส่งต่อไปยังสภากาชาดไทย เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยอีก 4 รายที่กำลังรอความหวังครั้งสุดท้ายอยู่
นางสาววาริพิณกล่าวทั้งน้ำตาและความภาคภูมิใจว่า “แม่เสียลูกไป แต่ก็ภูมิใจที่สุดที่ลูกแม่ได้ทำบุญก้อนใหญ่ ได้ช่วยคนอื่นอีก 4 ชีวิต แม่เชื่อว่านี่คือบุญที่จะนำทางลูกไปสู่ที่ดี ลูกจากไปแล้วแต่ยังฝากสิ่งดีไว้บนโลกนี้”
เรื่องราวของ “น้องภูมิ” และคุณแม่วาริพิณ กลายเป็นภาพจำที่สะเทือนใจผู้คนในสังคม และเป็นแรงบันดาลใจให้เห็นถึงคุณค่าของการ “ให้” แม้ในช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุด
สำหรับบรรยากาศงานศพที่ศาลาวัดพลายชุมชน อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลของน้องภูมิ และจะมีการฌาปนกิจศพวันที่ 19 เม.ย.นี้
////////////////////////