อบจ.พิษณุโลก สวนมติรองผู้ว่าฯ อยากลองของปิดประตูศาลสมเด็จฯ หลังเปิดพิธีได้ไม่นาน


เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพลตรี นพดล วัชรจิตบวร ผู้บัญชาการมณฑลหทารบกที่ 39 ได้นำขบวนนักรบโบราณเปิดประตูศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมกันเป็นจำนวนมาก เพราะถูกปิดมานานนับปี แต่ปรากฏว่าหลังพิธีเปิดประตูผ่านไปไม่นาน ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ ทาง อบจ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นผู้ดูแลพื้นที่ได้มาปิดประตูอีกครั้ง สร้างความสับสนให้กับประชาชนและผู้ที่ผ่านไปมาเป็นอย่างมาก ทางมณฑลทหารบกที่ 39 (มทบ.39) ได้รับแจ้ง ได้ส่งกำลังสารวัตรทหาร ไปตรวจสอบ พบมีการปิดประตูจริง แต่ยังไม่ได้ใส่กุญแจล็อก จึงเปิดประตูออกเพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปสักการะอย่างสะดวก ไม่ต้องเดินอ้อมเข้าด้านข้างศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเหมือนทุกปีที่ผ่านมา


ทางเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารจึงไปสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(รปภ.)ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)พิษณุโลก ซึ่งทำหน้าที่ประจำอยู่ที่ศูนย์ประวัติศาสตร์บริเวณเขตพระราชฐาน พระราชวังจันทน์ ได้รับคำตอบอ้างว่า มีเจ้าหน้าที่ รปภ.เพิ่งมาประจำใหม่ โดยไม่ทราบว่ามีการเปิดประตูศาลสมเด็จฯ ทั้งที่ก่อนหน้ามีพิธีอย่างเปิดเผยและยิ่งใหญ่ แต่กลับปฏิเสธว่าไม่รู้


ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 68 ที่ผ่านมา บริเวณหน้าศาลมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้มีการจัดพิธีอันยิ่งใหญ่อย่างสมพระเกียรติ เพื่อทำการเปิดประตูรั้วทางเข้าศาลสมเด็จพระนเรศวรมหารราช พระราชวังจันทน์ ซึ่งเป็นสถานที่พระราชสมภพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องจากทางเข้าประตูรั้วถูกปิดมานานหลายปี ทำให้การเข้าออกไม่สะดวก เพราะผู้ที่จะมากราบไหว้ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ต้องไปเข้าประตูใหญ่ซึ่งอยู่ห่างออกไป จึงมีประชาชนและนักท่องเที่ยวร้องเรียนหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อให้เปิดประตูด้านหน้า ซึ่งเป็นทางเข้าโดยตรงดังกล่าว


โดยมี พล.ตรี นพดล วัชรจิตบวร ผบ.มทบ.39 ในชุดนักรบโบราณพร้อมกำลังพล พร้อมด้วยทหารผ่านศึก และยังมีส่วนราชการพี่น้องประชาชนร่วมพิธีประวัติศาสตร์ของชาวพิษณุโลก ในการคืนประตูทางเข้าพระราชวังจันทร์ให้กับส่วนรวมได้ใช้อีกครั้ง เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของสมเด็จพระนเรศวรมหารราช พระมหากษัตริย์นักรบของชาติไทย เพราะประตูทางเข้าถูกปิดมานานนับ 10 ปี


พล.ตรี นพดล วัชรจิตบวร ผบ.มทบ.39 ซึ่งเป็นผู้นำทัพทวงคืนประตูพระราชวังจันทน์ได้ประกาศก้อง ว่า ” นับแต่นี้เป็นต้นไป ผมขอส่งมอบพื้นที่พระราชวังจันทร์ เปิดประตูสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช คืนให้กับประชาชนชาวพิษณุโลก นับแต่นี้เป็นต้นไป ” ท่ามกลางเสียงปี่ กลอง ดังกระหึ่ม บรรยายเสียงปลุกเร้าอารมณ์นักสู้ไทย มีการรำดาบ ก่อนยิงปืนขึ้นฟ้า พร้อมประทัด 10,000 นัด สร้างความดีใจของประชาชนที่เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก หลังจากนั้น ผบ.มทบ.39 ในชุดทหารนักรบโบราณได้นั่งลงถวายบังคมต่อหน้าศาลพระนเรศวร นับว่าเป็นประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งของชาวพิษณุโลก ที่ได้ร่วมจดจำ วันเปิดปะตูศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช คืนประชาชนชาวพิษณุโลกอีกครั้ง


โดยเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ที่ศูนย์ประวัติศาสตร์ เขตพระราชสถาน พระราชวังจันทน์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายนิสิต สวัสดิเทพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้เป็นประธานการประชุมหารือการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเปิด-ปิด ประตูศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช


จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก จึงได้ขอมติที่ประชุมเพื่อเปิดประตูถาวร ผลปรากฏว่าเสียงส่วนใหญ่ยกมือเห็นด้วย ยกเว้นปลัดอบจ.พิษณุโลก และผู้อำนวยการกองการศึกษาฯ อบจ.งดออกเสียง ซึ่งได้กำหนดเปิดถาวร ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป
