
วันที่ 25 สิงหาคม 2554 ที่ห้องประชุมจุฬามณี 1 สำนักงานเทศบาลนครพิษณุโลก นางเปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย เทศบาลนครพิษณุโลก แถลงข่าวกับสื่อมวลชน ว่า ตามที่เทศบาลนครพิษณุโลกโดยศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย เทศบาลนครพิษณุโลก ได้ดำเนินการป้องกันน้ำท่วมเขตพื้นที่เศรษฐกิจมาเป็นเวลาหลายวัน ล่าสุดระดับน้ำยังไม่ถึงจุดวิกฤติที่จะล้นตลิ่งได้ที่ระดับสูง 10.54 เมตร

โดยเมื่อย้อนอดีตในปี 2538 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่แต่เทศบาลนครพิษณุโลกก็ยังสามารถป้องกันเขตเศรษฐกิจไว้ได้ พร้อมทั้ง ได้ดำเนินการเสริมตลิ่งทำเขื่อนป้องกันตลิ่งในพื้นที่เสี่ยงทำให้แนวตลิ่งสูงขึ้นมาอีก 40-50 เซนติเมตร ปัจจุบันจึงสามารถรองรับปริมาณน้ำน่านที่จะเอ่อล้นตลิ่งได้ถึงระดับสูง 10.54 เมตร ส่วนจุดที่เป็นห่วง คือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร และพระราชวังจันทน์ เป็นจุดอ่อนของเมืองที่เราต้องป้องกันปัญหาน้ำท่วมนั้น สองจุดนี้ยังมีเขื่อนเสริมแนวตลิ่ง ที่น่าห่วงคือจุดแนวกำแพงเมืองโบราณ กำแพงเมืองเก่า ฝั่งวัดโพธิ์ญาณ – วัดน้อย ทางกรมศิลปากรได้ขุดค้นลึงลงไป 2 เมตร เป็นแนวตลิ่งที่เคยป้องกันน้ำจุดนี้น่าห่วงว่าหากกำแพงเมืองเก่าแช่น้ำจะเกิดการหลุดล่อนจนน้ำทะลักเข้าเมือง ทำให้ช่วงนี้ต้องมีการเสริมกระสอบทราย 100 % ตลอดแนวตลิ่ง อีกอย่างน้อย 30-50 เซนติเมตร ตลอดแนวตลิ่งระยะทาง 10 กิโลเมตร นอกจากนี้ ได้เตรียมแผนปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนจากอุทกภัย 5 แผน คือแผน วารี 1-วารี4 เป็นแผนปฏิบัติการรับมือน้ำท่วม ขณะนี้ยังดำเนินการในแผนวารี 4 ส่วนแผนที่ 5 แผนบุษราคัม เป็นแผนปฏิบัติขึ้น เพื่อเป็นการการรับมือหลังจากน้ำท่วมเขตเทศบาลพื้นที่เศรษฐกิจของเมืองแล้ว ซึ่งแผนนี้ จะเป็นการป้องกันเยียวยาและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์

สำหรับสถานการณ์น้ำในปัจจุบันเทศบาลนครพิษณุโลกได้ประสานด้านข้อมูลข่าวสารกับสำนักชลประทาน เกี่ยวกับปริมาณน้ำน่าน เขื่อนปล่อยน้ำมาในปริมาณมาก ซึ่งมีเขื่อนถึง 3 แห่ง คือ เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนนเรศวร เขื่อนแควน้อย ทั้ง 3 เขื่อนส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ ระดับน้ำในแม่น้ำน่านอาจจะสูงขึ้นอีกเนื่องจากเขื่อนสิริกิติ์ได้เร่งปล่อยน้ำ เพราะเกรงว่าเขื่อนจะได้รับผลกระทบอาจจะทำให้เขื่อนแตกได้ถ้ายังเก็บกักน้ำไว้ในปริมาณที่สูงเกินไป ประกอบกับกรมอุตินิยมวิทยาระบุว่าในวันที่ 25-26 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป จะมีร่องมรสุมพาดผ่านเข้ามาในประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักในพื้นที่พิษณุโลกด้วย ถ้ามีฝนตกหนักจะทำให้เกิดน้ำท่วมขังเนื่องจากปัจจุบันเทศบาลนครพิษณุโลกมีการอุดท่อระบายน้ำและใช้เครื่องสูบน้ำออกไปยังแม่น้ำน่านแทน พร้อมทั้งนำกระสอบทรายทำเขื่อนป้องกันตลอดริมตลิ่งในจุดพื้นที่เสี่ยง 2 แม่น้ำน่าน ตลอดแนวตลิ่งระยะทาง 10 กิโลเมตร

นางเปรมฤดี กล่าวว่า ล่าสุดวันนี้ระดับน้ำน่านได้เพิ่มขึ้นแต่ทางชลประทานจังหวัดพิษณุโลกได้ระบายออกคลองชลประทาน คลองซอยสาขา จนทำให้ระดับน้ำที่คาดว่า จะเพิ่มขึ้นเป็น 10.40 เมตรลดลง แต่ในช่วงเย็นวันนี้จะมีน้ำเขื่อนสิริกิติ์ที่ไหลจากอุตรดิตถ์มาสมทบเพิ่มคาดว่าปริมาณน้ำน่านจะเพิ่มอีก 10-20 เซนติเมตร อย่างแน่นอน