
สถานการณ์เฝ้าระวังวิกฤติแม่น้ำน่านล้นตลิ่ง เริ่มแต่ต้นเดือนสิงหาคม 2554 หลายคนกังวลใจ ทำไมแม่น้ำน่านจึงเพิ่มระดับเร็วมาก
– 2 สิงหาคม 2554 อิทธิพลของพายุนกเต็นส่งผลให้จังหวัดพิษณุโลกได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านและแม่น้ำยมที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม่น้ำน่านมีความสูง 7.60 เมตร
– 3 สิงหาคม 2554 แม่น้ำน่านสูง 8.50 เมตร เป็นวันแรกที่เทศบาลนครพิษณุโลกขยับรับมือแล้ว
– 4 สิงหาคม 2554 น่านสูง 9 เมตร และเป็นช่วงแรกที่พิษณุโลกพ้นวิกฤติ แม่น้ำน่านเริ่มลดระดับลง
– 12 สิงหาคม 2554 ฝนชุกที่อุตรดิตถ์ แม่น้ำน่านมีความสูง 9.21 เมตร
19 สิงหาคม แม่น้ำน่านสูงอีกระลอก อยู่ที่ 9.95 เมตร เทศบาลระดมอุดท่อระบายน้ำ ขณะที่บ้านริมจลิ่งได้รับผลกระทบ
-20 สิงหาคม2554 แม่น้ำน่านสูง 10.10 เมตร ปริ่มตลิ่งมาก เทศบาลระดมเครื่องสูบน้ำ ขนกระสอบทรายกั้นที่ต่ำ เริ่มเตือนรับมือ เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย ระบายน้ำเพิ่ม
-21 สิงหาคม2554 แม่น้ำน่านทรงตัว10.07-10.10 ม.
-22 สิงหาคม2554 แม่น้ำน่านมีความสูง10.31ม. เทศบาล ชลประทาน จังหวัด ทหาร อบต. เริ่มประสานทำแนวป้องกัน
-23 สิงหาคม2554แม่น้ำน่านทรงตัวสูง 10.34 ม. พื้นที่ต.จอมทอง ต.ปากโทก อ.เมืองพิษณุโลก นายปรีชา เรืองจันทร์ ผวจ.พิษณุโลก พ.อ.นพพร เรือนจันทร์ เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 4 ระดมกำลังทหาร เจ้าหน้าที่อส. อาสาสมัครร่วม 1,000 คน เพื่อทำแนวป้องกันสองฝั่งแม่น้ำน่าน ไม่ให้แม่น้ำน่านไหลเข้าในเขตเศรษฐกิจของเมืองพิษณุโลก
-24 สิงหาคม2554 น้ำน่านสูง 10.28 เมตร เมืองไม่ท่วม ต.จอมทอง ต.หัวรอ ยังอ่วม
-25สิงหาคม 2554 แม่น้ำน่านลดระดับลงเร็วมาก 06.00 น.อยู่ที่ 10.09 เมตร เป็นผลจากการะบายน้ำออกจากเขื่อนนเรศวร ลงสู่คลองชลประทาน อย่างไรก็ตาม หลังทดน้ำลงคลองชลประทาน แต่ขณะนี้ เขื่อนเรศวรเริ่มปล่อยน้ำน่านลงสู่แม่น้ำน่านไหลผ่านอ.พรหมพิราม และอ.เมืองพิษณุโลก แม่น้ำน่านกำลังไต่ระดับสูงขึ้นอีกครั้ง 06.00 น.สูง10.09 เมตร 07.00 น.สูง10.07เมตร 14.00 น.สูง10.10เมตร 16.00 น.สูง 10.13 เมตร17.00 น.อยู่ที่ระดับ 10.17 เมตร
โดยรวมแล้ว น้ำที่ระบายเพิ่มจากเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนแควน้อย กำลังทำให้แม่น้ำน่านอ.เมืองพิษณุโลกเพิ่มระดับขึ้นอีก วันนี้ นางเปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลกแถลงข่าวสื่อมวลชนถึงการรับมือและการเฝ้าระวังไม่ให้แม่น้ำน่านไหลล้นตลิ่ง ระบุว่า เทศบาลนครพิษณุโลก ได้ดำเนินการป้องกันน้ำท่วมเขตพื้นที่เศรษฐกิจมาเป็นเวลาหลายวัน ล่าสุดระดับน้ำยังไม่ถึงจุดวิกฤติที่จะล้นตลิ่งได้ที่ระดับสูง 10.54 เมตร
เมื่อย้อนอดีตในปี 2538 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่แต่เทศบาลนครพิษณุโลกก็ยังสามารถป้องกันเขตเศรษฐกิจไว้ได้ พร้อมทั้ง ได้ดำเนินการเสริมตลิ่งทำเขื่อนป้องกันตลิ่งในพื้นที่เสี่ยงทำให้แนวตลิ่งสูงขึ้นมาอีก 40-50 เซนติเมตร ปัจจุบันจึงสามารถรองรับปริมาณน้ำน่านที่จะเอ่อล้นตลิ่งได้ถึงระดับสูง 10.54 เมตร ส่วนจุดที่เป็นห่วง คือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร และพระราชวังจันทน์ เป็นจุดอ่อนของเมืองที่เราต้องป้องกันปัญหาน้ำท่วมนั้น สองจุดนี้ยังมีเขื่อนเสริมแนวตลิ่ง ที่น่าห่วงคือจุดแนวกำแพงเมืองโบราณ กำแพงเมืองเก่า ฝั่งวัดโพธิ์ญาณ – วัดน้อย ทางกรมศิลปากรได้ขุดค้นลึงลงไป 2 เมตร เป็นแนวตลิ่งที่เคยป้องกันน้ำจุดนี้น่าห่วงว่าหากกำแพงเมืองเก่าแช่น้ำจะเกิดการหลุดล่อนจนน้ำทะลักเข้าเมือง ทำให้ช่วงนี้ต้องมีการเสริมกระสอบทราย 100 % ตลอดแนวตลิ่ง อีกอย่างน้อย 30-50 เซนติเมตร ตลอดแนวตลิ่งระยะทาง 10 กิโลเมตร นอกจากนี้ ได้เตรียมแผนปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนจากอุทกภัย 5 แผน คือแผน วารี 1-วารี4 เป็นแผนปฏิบัติการรับมือน้ำท่วม ขณะนี้ยังดำเนินการในแผนวารี 4 ส่วนแผนที่ 5 แผนบุษราคัม เป็นแผนปฏิบัติขึ้น เพื่อเป็นการการรับมือหลังจากน้ำท่วมเขตเทศบาลพื้นที่เศรษฐกิจของเมืองแล้ว ซึ่งแผนนี้ จะเป็นการป้องกันเยียวยาและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์
สรุปแล้ว สถิตย้อนหลังแล้ว ยังห่างจากจุดวิกฤติมาก เมื่อปี 2549 แม่น้ำน่านอ.เมืองพิษณุโลกมีความสูง 10.30 เมตร ขณะที่น้ำท่วมใหญ่เมื่อกันยายน 2538 แม่น้ำน่านมีความสูงสุดที่ 10.51 เมตร
–