เวลา 10.00 น.วันที่ 6 ก.ย. 2554 นายโกศล น้อยมั่น อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.6 บ้านยางแขวนอู่ ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ได้เดินทางมาขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนส่วนกลางหลายแขนงในจังหวัดพิษณุโลก หลังจาก ชื่อดญ.นวรัตน์ น้อยมั่น อายุ 13 ปี หรือ น้องโมเม บุตรสาว กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนยางแขวนอู่ ได้หายตัวจากบ้านพัก พร้อมดับ น.ส.สมศรี มาแก้ว อายุ 18 ปี ชื่อเล่นน้ำฝน ไปตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อบุตรสาวและ น.ส.น้ำฝนได้เลย ตนเองเกรงว่าบุตรสาวจะถูกล่อลวงไปในทางไม่ดี จึงอยากให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางในการติดตามลูกสาวตนเอง
นายโกศล บิดาของเหยื่อที่ลูกสาวถูกลักพาตัวไปเปิดเผยว่า เมื่อประมาณเดือนสิงหาคม น.ส.น้ำฝนได้เข้ามาอาศัยอยู่กับแฟนหนุ่มที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันตนเอง ต่อมาน.ศ.น้ำฝนได้เข้ามาตีสนิทกับครอบครัวของตนเองซึ่งทุกวัน น.ศ.น้ำในจะมาที่บ้านพักของตนเองซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำทั่วไป และมาช่วยขายของอยู่เป้ฯประจำ และจะสนิทสนมกับลูกสาวตนเองมาก ซึ่งน.ส.น้ำฝนได้เล่าประวัตให้ฟังว่า ตนเองเป็นคนพื้นเพอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ แม่เป็นอาจารย์ และพ่อเป็นตำรวจ จนกระทั้งวันที่ 1 ก.ย. บุตรสาวได้มาขออนุญาติว่าจะไปสมัครเรียนพิเศษที่ ในตัวอำเภอบางระกำ โดยน.ศ.น้ำฝนจะขับรถจักรยานยนต์พาไป ด้วยความไว้วางใจจึงได้อนุญาติและให้เงินไปจำนวน 500 บาทเพื่อซื้อลูกชิ้นกลับมาทอดขาย ที่ร้านค้าของตนเอง
จนกระทั่งค่ำบุตรสาวยังไม่กลับมา ตนเองได้พยายามติดต่อทางโทรศัพท์ของ น.ส.น้ำฝนแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้ไปสอบถามแฟนหนุ่มของน.ส.น้ำฝน ที่บ้านพัก ก็ไม่ทราบว่าน.ส.น้ำฝนหายไปไหนเช่น จึงเชื่อว่าน.ส.น้ำฝนล่อลวงบุตรสาวของตนเองไปแน่นอน จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจอำเภอบางระกำ จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า น.ส.น้ำฝน ได้รู้จักกับแฟนหนุ่ม ซึ่งเป็นหลานชายของตนเองได้ประมาณ 1 เดือนและก็ย้ายมาอยู่กันที่บ้านพัก อ.บางระกำ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางแผนให้แหลายชายของตนเองโทรไปหาน.ส.น้ำฝน เพื่อจะตามไปช่วยเหลือน้องโมเม โดยน.ส.น้ำฝนบอกกับแฟนหนุ่มว่าตอนนี้กลับมาอยู่ที่บ้านพัก จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามไป แต่กลับไม่พบน.ส.น้ำฝนและ น้องโมเม ทราบจากญาติว่า น.ส.น้ำฝน ได้ไปทำงานอยู่กรุงเทพ และไม่ได้กลับมาที่บ้านนานแล้ว
นางโกศล กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ตนเองและครอบครัวเครียดมาก ก่อนหน้านี้ ก็เกิดปัญหาน้ำท่วมนาข้าวเสียหายไป 20 กว่าไร่ ตอนนี้น้องโมเม ลูกสาวก็มาหายออกไปจากบ้านพัก ยังไม่รู้ชะตากรรม บุตรสาวของตนเองเป็นเด็กหัวอ่อน มีพัฒนาการช้ากว่าในเด็กรุ่นเดียวกัน แต่ก็เป็นเด็กร่าเริงเข้ากับคนได้ง่าย ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวเป็นห่วงลูกสาวคนนี้มาก ตนเองได้นำรูปถ่ายของลูกสาวไปแจกตามตลาดและลงประกาศทางอินเตอร์เน็ต และในวันนี้ อยากให้สื่อมวลชนได้เป็นสื่อกลาช่วยเหลือครอบครัวของตนเอง ซึ่งพลเมืองดีท่านใดมีเบาะแส สามารถติดต่อมาได้ที่ 055-371177