ขุนพลนเรศวรถล่มพญาชาละวัน3-1

การแข่งขันฟุตบอลเอไอเอส ลีกดิวิชั่น 2 รอบชปล. สายเอ นัดที่ 8 ประจำวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมาที่สนามกีฬากลาง จ.พิษณุโลก เป็นศึกดาร์บี้แมตช์โซนเหนือระหว่าง “ขุนพลนเรศวร” พิษณุโลก ทีเอสวาย เอฟซี เปิดบ้านรับมือ “พญาชาละวัน” พิจิตร เอฟซี ซึ่งเกมนัดนี้เจ้าถิ่นมีทางเลือกเดียวต้องเก็บชัยชนะเท่านั้น จึงมีสิทธิ์ลุ้นในการเลื่อนชั้นต่อไป หลังจาก 7 นัดที่ผ่านมามี 10 คะแนนรั้งอยู่อันดับ 3 ของกลุ่ม เอ
เพื่อโอกาสในการลุ้นเลื่อนชั้น ยังมีเวลาจนถึงนัดสุดท้าย เกมนี้ พิษณุโลก ทีเอสวาย เอฟซี ตั้งเป้าในการคว้า 3 แต้มเพียงสถานเดียวเท่านั้น ซึ่งจากการพบกันในนัดล่าสุด พิษณุโลก ออกไปพ่าย พิจิตร เอฟซี 1-2 เกมนี้นอกจากต้องการล้างแค้นแล้ว ยังต้องรักษาโอกาสในการเลื่อนชั้นไว้ให้ได้ “โค้ชโหน่ง” สิทธิพล เอี่ยมสง่า เน้นผู้เล่นที่ดีและสมบูรณ์ที่สุดลงสนาม นำทีมโดย ประเวศ หอเจริญ, วีรยุทธ ขุนโต, ยุทธพงษ์ อินทร์น้อย, ณัฐวุฒิ สายสูง และ ยอด จันทรวงศ์
สำหรับเจ้าถิ่นเ กมนัดนี้ พิจิตร เอฟซี ที่โอกาสในการลุ้นเลื่อนชั้นน่าจะปิดตายลงไปแล้วหลังจาก 7 นัดที่ผ่านมาเก็บได้เพียง 7 แต้ม รั้งเป็นรองบ๊วยกลุ่ม เอ แต่ก็พร้อมที่จะส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงเต็มที่ ทว่า “โค้ชมาร์ค” สรศักดิ์ แรตสอน กุนซือหนุ่ม ก็ต้องปวดหัวจากการจัดลูกทีมลงสนาม เมื่อไม่สามารถใช้ สุทน กุลมัย กองหน้าตัวเก่ง และ อำนาจ รักประเสริฐ ปีกตัวจี๊ดของทีมได้เนื่องจากติดโทษแบน
ทว่านัดนี้ยังมีตัวหลักอื่นๆ ลงสนามกันครบครัน ไม่ว่าจะเป็น พิสิฐ ยืนยิ่ง, สุรพงษ์ ทองบัว, สศิตธิชัย คุ้มญาติ และ นิรัตน์ อินทร์เทศ
เริ่มต้นเกมการแข่งขันท่ามกลางกองเชียร์เจ้าถิ่นที่เข้าชมจนเต็มอัฒจันทร์ ทั้งสองทีมเปิดแลกกันได้อย่างสนุกตั้งแต่เริ่มเกมการแข่งขัน นาที 9 เป็นโอกาสที่เจ้าบ้านน่าได้ประตูออกนำมากที่สุด เมื่อ รณชัย นิ่มวิลัย ซัดฟรีคิกจากระยะ 30 หลาเยื้อทางริมเส้นซ้าย บอลพุ่งขนานพื้นเหมือนไม่มีอะไร วันชัย สุวรรรอินทร์ นายทวารพิจิตรรับบอลหลุดออกจากมือ บอลลอยเกือบจะมุดเข้าหาประตู สุดท้าย วิทยา สรีแก้ว กองหลังพิจิตร โหม่งสกัดออกหลังได้หวุดหวิด
เกมการแข่งขันเริ่มที่จะจับทางกันถูก ทำให้บอลส่วนมาก ชิงจังหวะกันอยู่แดนกลางซะเป็นส่วนใหญ่ แม้จะมีการเปิดยาวเพื่อลุ้นทำประตู แต่ก็ยังไม่มีฝ่ายไหนที่มีจังหวะยิงสวยๆ
ผ่านเกมการแข่งขันไปกว่า 20 นาที โอกาสยิงประตูกันยังไม่มาก นาที 24 เจ้าถิ่น พิษณุโลก ได้ลองซัดฟรีคิกอีกครั้งจากตำแหน่งเดิมระยะกว่า 30 หลา และยังเป็น รณชัย นิ่มวิลัย รับหน้าที่ปั่นเข้าไปลุ้นเช่นเดิม แต่คราวนี้ผู้รักษาประตูวิ่งออกมาคว้า 2 มือไม่พลาด
นาที 30 เป็นโอกาสได้เสียวของทีมเยือน พิจิตรบ้าง จากฟรีคิกริมเส้นขวาของ วรรธนัย ไชยชาติ เปิดโด่งโค้งมาหน้าประตู มีผู้เล่นของพิจิตรวิ่งสอดมาโหม่งซ้ำ แต่โดน ณัฐวุฒิ สายสูง กองหลังกัปตันทีมของ พิษณุโลก โหม่งเคลียร์ได้หวุดหวิด
นาที 33 เกมได้เสียวจากลูกเซตพีซอีกครั้ง “ขุนพลนเรศวร” ได้เตะมุมฝั่งซ้าย รณชัย ปั่นโค้งมาหน้าประตู ลูกทำท่าจะมุดเข้าหาเสาสอง ผู้รักษาประตูพิจิตรรับพลาดแต่โชคดีที่กองหลังช่วยกันเตะเคลียร์ออกมาได้
จากจังหวะต่อเนื่อง พิจิตร ได้สวนเร็วทันที ธีรวุฒิ รัตนสิทธิ์ กระชากบอลขึ้นทางริมซ้าย จนถึงกรอบเขตโทษเลี้ยงตัดเข้าไปยิงด้วยขวาแต่บอลเบาเกินไป ผู้รักษาประตูพิษณุโลกรับสบาย
เข้าสู่ท้ายครึ่งแรก พิษณุโลก โจมตีพิจิตรจากลูกริมเส้นหลายครั้ง และนาที 40 แฟนเจ้าบ้านก็ได้เฮลั่นสนาม รณชัย เปิดลูกเตะมุมไปกลางเขตโทษ ปราะเวศ หอเจริญ โหม่งตั้งมาหน้าประตู วีรวุฒิ ขุนโต ตวัดยิงทันที ผู้รักษาประตูปัดด้วยปลายมือแต่เอาไม่อยู่ บอลปลิ้นเข้าไปให้เจ้าถิ่นออกนำ 1-0 หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบครึ่งแรก พิษณุโลก ทีเอสวาย เอฟซี เป็นฝ่ายออกนำ
เกมการแข่งขันเริ่มเดินเข้าสู่ครึ่งเวลาหลัง นาที 50 กลายเป็นจังหวะหวาดเสียวของ พิจตร เอฟซี ที่มีลุ้นทำประตูตามตีเสมอ สุรพงษ์ ทองบัว ซัดฟรีคิก ระยะ 30หลา บอลข้ามหัวกำแพง พุ่งเข้าหาประตู เอกชัย พูลศรี นายทวาร พิษณุโลก รับกระฉอก บอลหลุดมือลอยโด่งหน้าประตู แต่สุดท้าย กองหลังเจ้าบ้าน โฉบมาโหม่งทิ้งได้หวุดหวิด
นาที 59 เจ้าบ้าน พิษณุโลก มีโอกาสได้ลุ้นบ้าง ยุทธพงษ์ อินทร์น้อย เล่นชิ่งกับ ยอดจันทวงค์ หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนเปิดข้ามฟากไปริมเส้นขวา วีรวุฒิ ขุนโต วิ่งสอดขึ้นมา ลองซัดไกลด้วยขวาบอลพุ่งหลุดเสาออกหลังไป
แต่แล้วนาที 65 แฟนบอล เมืองสองแคว ก็ได้เฮกันสนั่นอีกครั้ง จากการสวนกลับเร็ว ยอด จันทวงค์ แทงสั้นให้ วีรวุฒิ วิ่งสอดขึ้นมาจากข้างหลัง รับบอลแล้วพาทะลุเข้ากรอบเขตโทษ เลี้ยงแหวกกองหลังทีมเยือน ก่อนล็อคหลบตัดหลังอีกหนึ่งจังหวะเข้ากลางประตู ยิงหนีมือผู้รักษาประตู เข้าไป พิษณุโลก ทีเอสวาย ออกนำห่างเป็น 2-0
นาที 74 “พญาชาละวัน” น่าได้ประตูตีเสมอ พิสิฐ ยืนยิ่ง เรียกฟาวล์จาก ณัญวุฒิ สายสูงบนเส้น 18 หลา แล้วเป็น ศิตธิชัย คุ้มญาติ ปั่นข้ามกำแพงบอลโค้งไปเสาสอง พิสิฐ ได้เบียดกับ จูเนียร์ โหม่งหน้าประตู ทำให้โขกไม่ถนัด บอลหลุดเสาสองผ่านหน้าประตูออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
เข้าสู่ท้ายเกมการแข่งขัน ยังคงเปิดแลกกันได้อย่างสนุก นาที 81 พิจิตร เอฟซี มีโอกาสได้ลุ้น 2 ครั้งติดต่อกัน พิสิฐ ยืนยิ่ง ลากบอลขึ้นริมเส้นขวา แล้วลองสับไกยิงนอกกรอบเขตโทษบอลโดนกองหลังเจ้าถิ่นสะกัดออกมาได้แต่ยังไม่พ้นอันตราย ศิตธิไชย เก็บตกได้แถวสอง ลากบอลผ่านกองหลัง พิษณุโลก ก่อนอัดด้วยขวาอีกครั้งบอลหลุดผ่านเสาสองออกหลังไปอีก
ท้ายเกม พิษณุโลก มาได้ปประตูปิดท้ายเป็น 3-0 นาที 87 ยุทธพงษ์ อินทร์น้อย เปิดบอลจากสุดเส้นหลังทางฝั่งซ้ายข้ามไปเสาสอง ผู้รักษาประตู พิจิตร เอฟซี ออกมาปัดได้ปลายมือพลาด บอลหลุดมาเข้าทาง วีรวุฒิ ขุนโต แตะบอลลงก่อนซัดเข้าไปตุงตาข่าย เป็นแฮตทรกในนัดนี้
หลังจากนั้น ช่วงต่อเวลา นาที 94 พิจิตร เอฟซี จะพยายามเปิดเกมบุกกลับ และมาได้ฟรีคิก หน้าเขตโทษ สุรพงษ์ ทองบัว ซัดไปติดผู้รักษาประตู เด้งมาเข้าทาง นิรัตน์ อินทร์เทศ ยิงซ้ำเข้าประตูไปไล่มาเป็น 1-3 แต่ไม่ทัน จบเกมการแข่งขัน พิษณุโลก ทีเอสวาย เอฟซี เป็นฝ่ายที่เก็บชัยชนะไปได้ 3-1

วาทะโค้ช
สิทธิพล เอี่ยมสง่า หัวหน้าผู้ฝึกสอน พิษณุโลก ทีเอสวาย เอฟซี : วันนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่นักเตะเราเล่นกันได้ดีทำให้ยังมีโอกาสในการลุ้นเลื่อนชั้นอยู่ และเกมต่อไปก็จะเน้นอย่างเต็มที่”
สรศักดิ์ แรตสอน หัวหน้าผู้ฝึกสอน พิจิตร เอฟซี : วันนี้เราพลาดที่เสียประตูง่ายไปเอง ทำให้โดน พิษณุโลก ยิงไปถึง 3ประตู ซึ่งเป็นจุดที่เราต้องไปแก้ อีก 2 นัดที่เหลือ ก็ยังเล่นเต็มร้อยอย่างแน่นอนแม้ว่า เราไม่มีลุ้นเข้ารอบแล้ว”
คะแนนความสามารถของนักเตะทั้งสองทีม
พิษณุโลก ทีเอสวาย เอฟซี : เอกชัย พูลศรี6.5, อัครเดช สถานทุ่ง 6.5, ศุภกร หมอรักษา 6.5, รณชัย นิ่มวิลัย 7, อรรถพล กันฑะพงษ์ 6.5, วีรยุทธ ขุนโต 8, ประเวศ หอเจริญ 7, ณัฐวุฒิ สายสูง 7, วราเชนทร์ กุลคง 4 (ยุทธพงษ์  อินทรืน้อย 6.5), จูเนียร์ ซอบเซ่ 6.5, คณิศร ศิริโต 5 (ธราธิป ขันแก้ววงค์ 5), ยอด จันทวงค์ 6.5
พิจิตร เอฟซี : วันชัย สุวรรณอินทร์ 5, สถาพร สีอ่อน 6, วิทยา ศรีแก้ว 6, นิรัตน์ อินทร์เทศ 6, ศิตธิไชย คุ้มญาติ 6, พิสิฐ ยืนยิ่ง 6.5, ธีรวุฒิ รัตนสิทธิ 5 (ณัฐพล เทพอุทัย5), สุรพงษ์ ทองบัว 6.5, เอกพันธ์ ศรสิทธ์ 6, โคนัน มาร์ค อาเบล 5 (อาทิตย์ หัตถยะตันติ 5), วรรธนัย ไชยชาติ 6
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : วีรวุฒิ ขุนโต ผู้ทำประตู 3 ลูกให้ พิษณุโลก ทีเอสวาย เอฟซี

 

ขอบคุณภาพข่าว สยามกีฬา ,พิษณุโลกTSYเอฟซี

แสดงความคิดเห็น