ชาวนาต.บ้านกร่างเร่งเกี่ยวข้าวขายโรงสี

DSCF0035วันที่ 8 มีนาคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรชาวนาหลายรายที่นาข้าวได้อายุเก็บเกี่ยว  ต้องนำข้าวเปลือกไปขายสดให้กับทางโรงสี เนื่องจากช่วงนี้เกิดสุญญากาศ  ไม่สามารถนำข้าวเข้าโครงการรับจำนำได้  หลังโรงสี 22 แห่งในจังหวัดพิษณุโลก หยุดรับจำนำข้าวเปลือกจากชาวนา ซึ่งภาครัฐกำลังกำหนดแนวทางการรับจำนำข้าวเปลือกอยู่ในขณะนี้

 

DSCF0048นางอิน  อ่อนเพชร  อายุ 66 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 20  หมู่ 11  ต.บ้านกร่าง  อ.เมือง  จ.พิษณุโลก  เปิดเผยว่า ขณะนี้นาข้าว กว่า 10 ไร่ ของตนเอง  ได้อายุเก็บเกี่ยว  ซึ่งไม่สามารถรอเวลาได้  จึงตัดสินใจเกี่ยวข้าว แล้วนำไปขายกับโรงสีทันที  โดยไม่รอโครงการรับจำนำ

นาง อิน ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า  ก่อนหน้านี้  โรงสีที่ตนเองนำข้าวไปเข้าโครงการ  ก็มีปัญหา  อ้างว่า โกดังเต็ม  ไม่มีที่เก็บข้าว  จนต้องตัดใจ ขายข้าวสดแทนเข้าโครงการ  โดยสามารถขายได้ตันละ 8 พัน – 9 พันบาทเท่านั้น  ยอมรับว่า โครงการรับจำนำข้าว แม้ว่าจะได้ราคาดีกว่า ขายสดให้กับโรงสี  แต่ก็มีความยุ่งยากทั้งเรื่องเอกสาร    อีกทั้งกว่าจะได้รับเงินจาก ธกส.  ก็ใช้เวลานาน   เพื่อนเกษตรกรหลายคน รอมานานกว่า 3 เดือนก็ยังไม่ได้รับเงินจากการที่นำข้าวเข้าโครงการ  รับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลDSCF0031

ซึ่งตนเอง มีภาระที่จำเป็นจะต้องใช้เงิน  ทั้งค่าปุ๋ย  ค่ายา  ค่าจ้างรถเกี่ยวข้าวที่มีแต่แพงขึ้น  ตั้งแต่ต้นปี เป็นต้นมา  ทุกอย่างปรับราคาแพงขึ้นไม่ต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์  ค่าปุ๋ย  จากที่เคยซื้อ ลูกละ  800 บาท ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 900 บาท  ค่าจ้างรถเกี่ยวข้าว จากที่เคยจ้าง ไร่ละ 400 บาท เมื่อปีที่ผ่านมา ครั้งนี้ต้องจ่ายค่าจ้างรถเกี่ยวในราคาไร่ละ  500 บาท  ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง จำเป็นต้องจ่ายเงินทันที   ไม่สามารถที่จะรอเวลาได้นาน  จึงตัดสินใจ ที่จะขายข้าวเปลือกกับโรงสี  ไม่นำข้าวเปลือกเข้าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลในระยะนี้  แม้ว่าจะได้ในราคาต่ำกว่าหลายพันบาท

แสดงความคิดเห็น