เจ้าอาวาสวัดวังสำโรงถูกเณรตีหัวกลับวัดชาวบ้านนอนเฝ้า

0003จากกรณี เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 3 ก.ค. 2558 ที่ผ่านมา มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นบุกกุฏิเข้าไปใช้ค้อนทุบและทำร้ายร่างกาย พระครูพิศาลธรรมรังสี อายุ 59 ปี เจ้าอาวาสวัดวังสำโรง เจ้าคณะตำบลวังพิกุล เขต 2 อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์เลือดไหลอาบเปรอะเปื้อนจีวร และฟกช้ำที่ร่างกายหลายแห่ง แต่เจ้าอาวาสใจเด็ดกัดฟันฮึดสู้ จนคนร้ายต้องถอยหนีอาศัยความมืดพรางตัวหายไปอย่างไร้ร่องรอย จนกระทั่งช่วงเช้าของอีกวันมีชาวบ้านมาพบว่าเจ้าอาวาสหอบร่างกายอันบอบช้ำ มานอนภายในโบสถ์เพื่อความปลอดภัย ส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดระบมที่แผล ก่อนลูกศิษย์จะช่วยกันพยุงตัวขึ้นรถยนต์เดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธชินราช0006

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 ก.ค. 2558 ที่วัดวังสำโรง หมู่ 8 ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก นายยาม  ทองเชื้อ อายุ 60 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ได้ไปรับพระครูพิศาลธรรมรังสี เจ้าอาวาสวัดวังสำโรง ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช อ.เมืองพิษณุโลก เพื่อเดินทางกลับมาจำวัดตามปกติ หลังจากคืนที่ผ่านมาทีมแพทย์ได้ให้พักรักษาตัวที่ตึกศัลยกรรมประสาท พร้อมกับทำการเย็บบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะจำนวนกว่า 20 เข็ม และเอกซเรย์สมองที่ถูกของแข็งทุบตี จนทราบผลว่ากะโหลกศีรษะไม่ร้าวแต่อย่างใด สมองไม่ได้รับการกระทบกระเทือน หรือมีเลือดคั่งในสมอง แพทย์จึงอนุญาตให้กลับวัดได้ ขณะบรรยากาศที่วัดวังสำโรงต่างมีชาวบ้านในพื้นที่จำนวนกว่า 20 คน เดินทางมารอรับพระครูพิศาลธรรมรังสี ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยและไถ่ถามถึงอาการบาดเจ็บ0004

ด้าน พระครูพิศาลธรรมรังสี เจ้าอาวาสวัดวังสำโรง เปิดเผยว่า ในคืนเกิดเหตุนั้นตนเองเปิดไฟนั่งดูทีวีอยู่ด้านหน้ากุฏิ จากนั้นมีคนร้ายบุกขึ้นมาใช้ค้อนทุบตีตนเองอย่างบ้าคลั่ง ได้กอดรัดฟัดเหวี่ยงต่อสู้กันจนค้อนของคนร้ายหลุดออกจากมือ และคนร้ายสู้แรงตนไม่ไหวจึงวิ่งหนีหายไปกับความมืด ตนได้รับบาดเจ็บเลือดโชกที่ศีรษะ แต่สามารถจดจำหน้าคนร้ายได้อย่างแม่นยำ เพราะคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน คือ นายศิริวัฒน์ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 18 ปี หรือเณรมด ที่ตนเองเป็นพระอุปัชฌาย์บวชเณรให้ตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา และได้พักอาศัยอยู่ที่วัดแห่งนี้เป็นเวลา 15 วัน แต่ระหว่างที่เณรมดมาบวชอยู่ที่วัดนั้นก็ไม่ได้มีใจใฝ่ในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง กลับเอาจานดาวเทียม ทีวี คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือ มาต่ออินเทอร์เน็ตเล่นโปรแกรมเฟซบุ๊กและโปรแกรมแชตไลน์จนหามรุ่งหามค่ำ ไม่ยอมลุกบิณฑบาตในตอนเช้า ซึ่งเป็นกิจของพระและเณรที่พึงกระทำ ด้วยความเป็นห่วงและปรารถนาดีตนจึงได้เอ่ยปากตักเตือนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเณรมดก็ไม่ได้โต้เถียงแต่อย่างใด แต่มีอาการไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด สุดท้ายเณรมดก็ขอไปอยู่ที่วัดอื่น ก่อนจะย้อนกลับมาลงมือทำร้ายร่างกายตนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว ส่วนสาเหตุแรงจูงใจที่ลงมือกระทำไปนั้นตนปักใจเชื่อว่า เณรมดอาจจะเก็บกดและเก็บความแค้นไว้ในใจที่ถูกตนพร่ำบ่นพร่ำสอนก็เป็นได้ แต่ขณะนี้ก็ไม่ทราบว่าเณรมดได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่วัดใด0005

 

โดยคืนนี้จะมีลูกศิษย์ใกล้ชิดมานอนที่วัดด้วยเพื่อป้องกันความปลอดภัย ขณะที่วันเดียวกันนี้พระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ พร้อมกับคณะลูกศิษย์ ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการพระครูพิศาลธรรมรังสี เจ้าอาวาสวัดวังสำโรง พร้อมกับมอบกระเช้าสุขภาพไว้ให้เป็นกำลังใจอีกด้วย0002

ส่วนทางด้านคดี ร.ต.ท.กิตติณัฏฐ์  บุญแท้ ร้อยเวร สภ.วังทอง เจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เรียกผู้ใดมาสอบปากคำเพิ่มเติม แต่ได้ติดต่อผ่านลูกศิษย์ของพระครูพิศาลธรรมรังสี เจ้าอาวาสวัดวังสำโรง ผู้เสียหาย เพื่อเข้ามาให้ปากคำสอบสวนในคดี แต่ช่วงนี้ต้องให้พระครูพิศาลธรรมรังสีรักษาตัวให้หายจากอาการบาดเจ็บเสียก่อน พร้อมกับจะออกหมายเรียกติดตามเณรมดมาสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.0001

…………………………………………………

แสดงความคิดเห็น