นาข้าว300,000ไร่ลุ่มน้ำยมเก็บเกี่ยวสิ้นกค.นี้

DSC03203วันที่ 22   กรกฎาคม 2558  ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ น้ำในเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก หลังจากฝนเริ่มตกอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์นี้  ส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น  ล่าสุดวันนี้  มีน้ำไหลเข้าเขื่อน 8.820 ล้าน ลบ.ม/วัน   ส่งผลให้เขื่อนแควน้อยมีน้ำเก็บกักภายในเขื่อน   111.990 ล้านลูกบาศก์เมตร ( ล.ลบ.ม. ) จากปริมาณน้ำที่สามารถรับได้ 939 ล้าน ลบ.ม. หรือ ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 11.93 % จากความจุของตัวเขื่อน น้ำสามารถใช้การได้ เพียง  63.990 ล้าน ลบ.ม. หรือ 7.35  %

DSC03213

นายสมหวัง ปารสุขสาร ผู้อำนวยการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน กล่าวว่า  ในปีนี้สถานการณ์ในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา แต่ในช่วงนี้สถานการณ์คลี่คลายดีขึ้นหลังจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องนานกว่าสัปดาห์  ส่งผลให้มีน้ำเข้าเขื่อนอย่างต่อเนื่อง  ทำให้น้ำในเขื่อนเก็บกักได้เกือบ  12 %  ถ้าฝนยังตกต่อเนื่องปริมาณน้ำเข้าเขื่อนก็จะเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าน้ำในเขื่อนจะเต็มหรือไม่สำหรับปีนี้ ต้องตรวจสอบจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่าจะมีฝนตกมากน้อยเพียงใดเพื่อคำนวณปริมาณน้ำ ได้  เพราะจากสภาวะความเปลี่ยนแปลงของอากาศ ทำให้ไม่สามารถบอกได้  แต่การที่ฝนตกมาในช่วงนี้  ทำให้พื้นที่เพาะปลูกของเขื่อนแควน้อยในปัจจุบันมีพื้นที่เพาะปลูก 147,000 ไร่   จากพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด  155,166 ไร่   คาดว่าจะไม่มีพื้นที่เสียหายจากภาวะภัยแล้งอย่างที่คาดการณ์ไว้DSC03216

DSC03144

ขณะที่พื้นที่ปลูกข้าวในเขตลุ่มน้ำยมในโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายม-น่าน พื้นที่300,000 ไร่ อ.พรหมพิราม อ.เมืองพิษณุโลก อ.บางระกำ และ อ.กงไรลาศ จ.สุโขทัย ปีนี้เกษตรกรได้ปลูกข้าวเกือบเต็มพื้นที่ชลประทาน และปลูกเร็วกว่ากำหนดการปลูกเดิม 1 เดือนตามแผนการปรับปฏิทินทำนาใหม่ โดยชลประทานได้จัดสรรน้ำเข้าโครงการมาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 ขณะนี้สภาพโดยรวมนาข้าวค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ไม่ขาดน้ำ พื้นที่ที่อยู่ห่างจากคลองชลประทานชาวนาก็สูบน้ำนาบาดาลจากบ่อของตนเอง ขณะนี้ข้าวในพื้นที่ส่วนใหญ่อายุ 70 วันขึ้น กำลังออกรวง คาดว่าจะเก็บเกี่ยวได้หมดภายในสิ้นเดือนกรกฏาคมนี้

DSC03147

นายกฤษณะ  บุตรบูรณ์ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายมน่าน สำนักชลประทานที่ 3 จ.พิษณุโลก ชาวนาในเขตที่ต่ำลุ่มน้ำยมของจ.พิษณุโลกจะเริ่มทำนาปรังรอบรอบแรกในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ด้วยพันธุ์ข้าวอายุสั้น 90-100 วัน และแทบทุกปีช่วงเดือนสิงหาคมจะประสบปัญหาแม่น้ำยมไหลล้นตลิ่งไหลท่วมพื้นที่นาข้าวที่กำลังออกรวงเสียหายหลายหมื่นไร่ แต่ปีนี้ชลประทานได้ทดลองนำร่องปรับปฏิทินการทำนาให้เร็วขึ้น 1 เดือน ตามแผนของการส่งน้ำปีนี้  ใช้น้ำจากแม่น้ำน่าน หรือเขื่อนสิริกิติ์ ผันน้ำจากคลองต้นโพธิ์ เหนือเขื่อนนเรศวร อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ส่งลงมายังคลองเมม หรือ แม่น้ำยมสายเก่า โดยมีประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว ที่อ.บางระกำ ทำหน้าที่กักเก็บน้ำให้น้ำกระจายไปทั่วคูคลองสาขา โดยใช้น้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ไปแล้ว 109 ล้านลบ.ม. จากปริมาณน้ำที่ขอ 264 ล้านลบ.ม. และคาดว่าตลอดแผนการส่งน้ำจนถึงสิ้นเดือนกรกฏาคมนี้ น้ำจะเพียงพอต่อความต้องการใช้ ขณะนี้พื้นที่ปลูกข้าวเกือบ 300,000 ไร่ข้าวอายุ 70 วัน และผลผลิตออกสมบูรณ์มาก ไม่มีเพลี้ย โรคระบาดกวนและไม่ขาดน้ำ ขณะนี้เริ่มมีพื้นที่บางส่วนเกี่ยวข้าวได้แล้ว 5,000 ไร่ คาดสิ้นนี้จะเก็บเกี่ยวได้หมด จากนั้นได้แจ้งให้เกษตรกรในพื้นที่ทราบขอให้งดการทำนาต่อเนื่อง หากปีนี้น้ำจากแม่น้ำยมมามากก็จะปล่อยให้พื้นที่น้ำท่วม โดยสถานการณ์ขณะนี้ในพื้นที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง และไหลมารวมในคลองบางแก้ว ทำให้ต้องเปิดประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว 1 บาน ระบายน้ำจากคลองบางแก้วออกสู่แม่น้ำยม 70 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อให้ไหลไปยังแม่น้ำยม ช่วยให้มีน้ำไหลผ่านแม่น้ำยมในจ.พิจิตร 6.5 ล้านลบ.ม.ต่อวัน

แสดงความคิดเห็น