เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 58 ที่โรงแรมแรมอัมรินทร์ลากูน อ.เมืองพิษณุโลก นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานลงนามร่วมมือระหว่างหน่วยงาน(MOU) การพัฒนาสถานประกอบการปลอดโรค ปลอดภัย กายเป็นสุข ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบน ซึ่งมีจังหวัดพิษณุโลก สุโขทัย ตาก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ พิจิตร กำแพงเพชร อุทัยธานี และชัยนาท ประกอบด้วย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด สำนักงานประกันสังคมจังหวัด และสภาอุตสาหกรรมจังหวัด
ทั้งนี้เพื่อสร้างเสริมความร่วมมือและข้อตกลงเครือข่ายการดูแลสุขภาพวัยทำงานแบบบูรณาการ เพื่อลดความเสี่ยงและส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพในสถานประกอบการ และเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน การพัฒนาสถานประกอบการปลอดโรค ปลอดภัย กายเป็นสุข โดยสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่9 จ.พิษณุโลก และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 8 จ.นครสวรรค์ โดยมีเป้าหมายในการดำเนินงาน เพื่อส่งเสริมป้องกัน ควบคุมโรคในวัยทำงาน การเสริมสร้างสุขภาพ จัดการความปลอดภัย ความสุขของคนทำงาน ตลอดจนการปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมผู้ไม่สูบบุหรี่ และการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การจัดการขององค์กรเอง ซึ่งมีหน่วยงานสาธารณสุขในจังหวัดเป็นที่ปรึกษา แนะนำ ช่วยเหลือ
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันนี้เป็นการลงนามความเข้าใจ หรือ MOU เรื่องสุขภาพคนทำงานในสถานประกอบการโรงงานใน10 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน วัตถุประสงค์เป็นเรื่องการดูแลสุขภาพคนทำงานในสถานประกอบการ ในภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นภาคที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ การที่คนทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมมีสุขภาพดี กายใจเป็นสุขเป็นสิ่งสำคัญ เพราะในปัจจุบันคนทำงานจะมีภัยคุกคามสุขภาพหลายเรื่อง ทั้งเรื่องของโรคไม่ติดต่อ ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดัน เนื่องจากขาดการออกกำลังกาย หรือสภาพการทำงานที่ดี และความปลอดภัยในการทำงาน อุปกรณ์ป้องกันตัวต่างๆ รวมทั้งเรื่องของการส่งเสริมสุขภาพ และการให้ความรู้คนทำงาน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัย การทำงานต้องอาศัยบูรณาการร่วมกัน ที่สำคัญคือเจ้าของโรงงาน โดยคิดถึงประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่งประชาชนคนใช้แรงงานมีความปลอดภัยกายใจเป็นสุข ตรงกับวัตถุประสงค์ของรัฐบาล ซึ่งการลงนามในวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นแสดงเจตจำนงว่า ทั้งหน่วยราชการภาคเอกชนจะร่วมมือกัน จากนั้นจะนำความรู้ในเรื่องส่งเสริมสุขภาพไปสู่ภาคปฏิบัติสู่คนได้ง่ายในโรงงานต่อไป และจะมีการติดตามการทำงาน ประเมินผล ร่วมทั้งพัฒนาต่อยอดในเชิงการวิจัยพัฒนาเป้าหมายสุดท้ายให้ผู้ประกอบการ ได้มีคนทำงานที่มีสุขภาพดี สามารถทำงานพัฒนาประเทศและเป็นผลดีต่อระบบอุตสาหกรรมต่อไป
