วันที่ 2 ก.พ.2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงไปทุกพื้นที่ แม่น้ำ ห้วย หนอง คลองบึง แห้งขอดไม่มีน้ำแต่อย่างใดส่งผลให้เกษตรกรที่ปลูกนาข้าว ได้รับผลกระทบ โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสำรวจบึงน้ำสาธารณะ 3 บึงตามโครงการบางระกำโมเดล ของรัฐบาลที่ผ่านมา ได้แก่บึงระมาณ บึงขี้แร้ง บึงตะเคร็ง ต.ปลักแรด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นบึงน้ำสาธารณะรวมพื้นที่ทั้ง 3 แห่ง จำนวน 1,800 ไร่ สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ได้กว่า 17 ล้านลูกบาศ์กเมตร และช่วยบรรเทาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ อ.บางระกำ นั้น ปรากฏว่าภัยแล้งได้ทวีความรุนแรง ทำให้น้ำในบึงน้ำสาธารณะทั้ง 3 แห่งไม่มีน้ำไว้ใช้ทางการเกษตรแต่อย่างใด ส่งผลกระทบให้เกษตรกรที่อยู่บริเวณรอบบึงน้ำทั้ง 3 แห่ง ต้องแก้ปัญหาดึงน้ำจากบ่อบาดาลมาทำนากันเอง
นายวิบูลย์ ตั้งเกษมวิบูลย์ นายกเทศบาลตำบลบางระกำเมืองใหม่ กล่าวว่า ปีนี้ภัยแล้งรุนแรงมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา น้ำตามแหล่งน้ำสาธารณะแห้งขอด ไม่มีน้ำทางการเกษตรได้ ชาวนาในพื้นที่ อ.บางระกำ ต้องพึ่งตนเอง ด้วยการขุดบ่อบาดาลดึงน้ำมาทำนากันเอง จากการสำรวจแหล่งน้ำนอกจากแม่น้ำยมแห้งขอดแล้ว บึงน้ำสาธารณะทั้ง 3 แห่ง ของบางระกำโมเดล ก็ไม่มีน้ำทางการเกษตรเช่นกัน มีแต่เพียงบึงระมาณที่มีน้ำก้นบึงเล็กน้อย เนื่องจากมีฝนตกลงเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ไม่สามารถนำไปใช้ทางการเกษตรได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจังหวัดพิษณุโลก ขณะนี้ได้ประกาศให้ 3 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว ได้แก่ อ.วัดโบสถ์ อ.บางกระทุ่ม และ อ.วังทอง ส่วน อ.บางระกำ เป็นพื้นที่เสี่ยงที่จับตาไว้ ยังไม่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัย แต่แม่น้ำลำคลอง หลายสายได้แห้งขอดอย่างต่อเนื่องมาโดยทุกปี
///////////