บ้านผารังหมีรวมกลุ่มทำข้าวอินทรีย์แปรรูปขายได้ตันละ 2.5 หมื่นบาท

บ้านผารังหมี (15)ชุมชนบ้านผารังหมี  หมู่ 3 ต.ไทรย้อย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เป็นหมู่บ้านที่มีความเข้มแข็งจากพลังของคนในชุมชนที่มีจำนวน 382 คน   127 หลังคาเรือน  ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำอาชีพทำการเกษตร 4,019 ไร่ เป็นพื้นที่ทำนา 2,800 ไร่  เนื่องจากชาวนา 80 ครัวเรือนที่ผ่านมา พึ่งพาเทคโนโลยีสมัยใหม่  ใช้ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ใช้สารเคมี เพื่อช่วยผลผลิตที่ใช้เกินความจำเป็นทำให้ต้นทุนการทำนาสูงจนขาดทุน อีกทั้งมีสารพิษตกค้างที่ผลผลิตและร่างกาย  ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม สังคมและเศรษฐกิจ  IMG_3821

บ้านผารังหมี (5)นางสุดใจ ชมพูมี  ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านผารังหมี กล่าวว่า จากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558  จนท.สาธารณสุข ได้มาตรวจค้นหาสารเคมีในกระแสเลือดของชาวนาในหมู่บ้าน พบว่าชาวนาจำนวน 138 คนมีปัญหาสารเคมีตกค้างในระดับไม่ปลอดภัย 2 รายและในระดับเสี่ยง 43 ราย สาเหตุจากการใช้สารเคมีอย่างไม่เข้าใจ เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตลดปัญหาสารเคมีตกค้างในร่างกาย ชาวนาบ้านผารังมีทั้ง 80 ครัวเรือน จึงได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกับผลผลิต  หันมาใช้สารอินทรีย์ทดแทน  เป็นมิตรกับธรรมชาติลดปัญหาด้านเศรษฐกิจ ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น  จากการตัดรายจ่ายไม่จำเป็นจากการซื้อสารเคมี ที่สำคัญชาวนาบ้านผารังหมี มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น บ้านผารังหมี (27)

บ้านผารังหมี (28)

และเพื่อปลูกฝังความเข้าใจชาวนารายใหม่ที่เข้าร่วมปลูกข้าวอินทรีย์ จะได้รับการอบรม เริ่มตั้งแต่แปลงนา จะมีการปลูกปอเทือง เพื่อเป็นปุ๋ยพืชสดในแปลงนา  จากนั้นจะมีการสอนขบวนการทำปุ๋ยหมักสูตรเฉพาะของหมู่บ้านที่มีขี้ค้างคาวเป็นส่วนผสม  ทำการหมักเก็บไว้ช่วงระหว่างหยุดพักการทำนา  นอกจากนี้ยังมีการอบรมและร่วมกันทำสารไล่แมลงสูตรต่างๆ จากวัสดุที่มีในหมู่บ้าน     สูตรปุ๋ยอินทรีย์ และสารฆ่าหญ้าอินทรีย์ อีกด้วย   จากการทำนาข้าวอินทรีย์ปลอดสารเคมี ทำให้ชาวนาสามารถขายผลผลิตข้าวเปลือกได้ตันละ 15,000 บาท   หรือหากนำมาแปรรูป จะเพิ่มมูลค่าข้าวได้ถึงตันละ 25,000 บาทเลยทีเดียวบ้านผารังหมี (8)

นายจันที  ชมพูมี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านผารังหมี ต.ไทรย้อย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก กล่าวว่า  ชาวบ้านบ้านผารังหมี ไม่ได้รอคอยความหวังให้ใครมาช่วยเหลือ แม้ว่าใน 1 ปี จะสามารถทำนาได้เพียงปีละครั้งเนื่องจากสภาพน้ำในช่วงฤดูแล้งไม่มี ชาวนาจึงต้องรู้จักการวางแผนการทำการเกษตรเพื่อให้ได้คุณภาพดีจำหน่ายได้ราคาสูง คุ้มค่ากับการลงทุน การปรับการทำนาตามแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีสำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรมของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้การสนับสนุน จนชุมชนประสบผลการทำนาอินทรีย์ผลิตแปรรูปข้าวกล้องปลอดสารพิษเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ จนผลผลิตไม่ทันยอดการสั่งซื้อบ้านผารังหมี (13)

ทำให้ชาวนาบ้านผารังหมีวันนี้ มีความสุขกายสุขใจ มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นห่างไกลจากสารเคมี จากการทำนาอินทรีย์ สามารถลดต้นทุนการผลิตและยังสามารถรวมกลุ่มกันแปรรูปข้าวกล้องปลอดสารพิษ ขายในตราผางาม ได้ติดตลาดจนยอดการผลผลิตไม่ทันต่อความต้องการบ้านผารังหมี (11)

บ้านผารังหมี (21)

แสดงความคิดเห็น