คุมตัวหนุ่มต.บึงพระจี้เซเว่น 3 สาขาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

จนท.ตร.ควบคุมตัวนายอนุพงศ์ ครองธัญการ อายุ 26 ปี ชาว ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจี้ชิงทรัพย์ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น 3 สาขาซ้อนเริ่มจากจุดแรกเซเว่น บึงพระ ในต.บึงพระ และเซเว่นสาขาชุมชนสกัดน้ำมันและม.นเรศวร ประตู 1 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง ก่อเหตุเมื่อ01.00-01.30 น.  20 ส.ค.ที่ผ่านมา ไปกบดานที่ขอนแก่น ตำรวจตามจับกุมได้

เวลา 14.30 น. วันที่ 23 สิงหาคม 2562 ที่ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น  สาขาบึงพระ ข้างตลาดบึงพระ ตำบลบึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พล.ต.ต.ถาวร  แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.สมพร ทองรอด รอง ผกก.บก.สส.ภ.6 พ.ต.อ.ทรงพล  สังขเกษม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว นายอาณุพงษ์ ครองธัญการ อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 3 หมู่ 3 ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ก่อเหตุชิงทรัพย์เป็นเงินสดร้านเซเว่น-อีเลหเว่น 3 สาขาซ้อน ในช่วงเวลา 01.00-01.30 น. วันที่ 20 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา   ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีแดง-ดำ คันก่อเหตุหลบหนีไปกบดานที่จ.ขอนแก่น กระทั่งมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแส ตำรวจภูธรจ.ขอนแก่นและชุดสืบสวนตำรวจภ.6 ไปตามจับกุมตัวได้ที่ขอนแก่นเมื่อวานนี้

บรรยากาศการคุมคัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้รับความสนใจจากชาวบ้านตำบลบึงพระมามุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก เนื่องจากผู้ก่อเหตุ เป็นคนในพื้นที่ และก่อเหตุอย่างอุกอาจมาก ลงมือคนเดียวไปก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 3 สาขาซ้อน ในระยะเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง โดยจนท.ตำรวจได้คุมตัวนายอาณุพงษ์ ทำแผนที่เซเว่น-อีเลฟเว่นสาขาบึงพระ เป็นแห่งแรก ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน สวมหมวกกันน็อค เสื้อคลุม และหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า เดินเข้าไปที่เคาว์เตอร์พบพนักงานขายเป็นหญิง 1 ราย และใช้อาวุธปืนข่มขู่บังคับนำเงินไป จากนั้น คุมตัวไปทำแผนจุดที่สอง ที่เซเว่น-อีเลฟเว่น สาขาชุมชนสกัดน้ำมัน ใกล้สี่แยกสกัดน้ำมัน ห่างจากจุดแรกประมาณ 3 กิโลเมตร ต่อด้วยจุดที่ 3 ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นสาขาม.นเรศวร ประตู 1 ด้านหน้ามหาวิทยาลัยนเรศวร ห่างจากจุดที่สองประมาณ 2 กิโลเมตร

ทั้งนี้ วันที่ 20 ส.ค.ตั้งแต่เวลาเวลา 01.00 น.-01.30 น.  คนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 170 ซม. สวมหมวกกันน็อคสีดำและหน้ากากอนามัยสีแดงปิดบังใบหน้า ใส่เสื้อกันหนาวสีน้ำตาล นุ่งกางเกงขายาวสีดำ และใช้อาวุธปืนลูกซองสั้น ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงเงินทั้ง 3 สาขา ได้เงินรวมไปกว่า 5,000 บาท คือ ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขา ตลาดบึงพระ สาขาแยกสกัดน้ำมัน และ สาขามหาวิทยาลัยนเรศวร ประตู 1  พฤติการณ์ใช้ปืนลูกซองสั้นจี้ ข่มขู่พนักงานหญิงหน้าเคาน์เตอร์ บังคับให้หยิบเงินในลิ้นชัก ในเหตุแรก ได้เงินไป 3,520 บาท  เหตุ 2 ไปจี้เซเว่นอีเลฟเว่น สาขาแยกสกัดน้ำมัน หมู่ 2 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก ได้เงินไปจำนวน 700 บาท และก่อเหตุที่ 3 บุกจี้ซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขามหาวิทยาลัยนเรศวร ใกล้เคียงประตู 1 หมู่ 9 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลกได้เงินไปกว่า 1,000 บาท

เบื้องต้น นายอาณุพงษ์  ครองธัญญา ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือก่อเหตุนั้นเนื่องจากตกงานและไม่มีเงิน จึงตัดสินใจเข้าไปก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ที่อยู่ใกล้บ้าน โดยปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นเป็นปืนบีบีกันต้องการข่มขู่ให้พนักงานเกรงกลัวเท่านั้น และนำไปโยนทิ้งบริเวณอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ระหว่างหลบหนีไปหาครอบครัวที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด ซึ่งอยู่ระหว่างเช็คประวัติการก่อเหตุอาชญากรรมว่าเคยไปก่อเหตุลักษณะนี้ที่ใดมาก่อนหรือไม่ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนแจ้งความดำเนินคดีต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ถาวร  แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก กล่าวว่า คดีนี้เป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชนเนื่องจากคนร้ายลงมืออย่างอุกอาจคืนเดียวออกจี้ชิงทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในพื้นที่ อ.เมืองพิษณุโลก ถึง 3 แห่ง หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่หาข่าวและหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้ อีกทั้งทางสื่อมวลชนได้มีการนำเสนอข่าวทำให้ประชาชนซึ่งเป็นพลเมืองดีแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจจนสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ นอกจากนี้ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเพิ่มวงรอบในการออกตรวจในพื้นที่สุ่มเสี่ยงในช่วงยามค่ำคืนเพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นอีกด้วย.

 

 

……………………………………………………………………

แสดงความคิดเห็น