ข้าราชการสาวเลี้ยงด้วงมะพร้าวขายสร้างรายได้เสริมหลักแสนต่อเดือน

พาไปดูอาชีพทำเงินของข้าราชการสาวระดับผู้บริหาร ดีกรีปริญญาโท ที่ยึดอาชีพเสริมด้วยการเปิดบ้านเลี้ยงด้วงมะพร้าว เปิดตลาดด้วงมะพร้าวทอด และตัวด้วงมะพร้าวส่งขาย ปลีก-ส่ง ให้กับกลุ่มผู้บริโภคแมลงของภาคเหนือตอนล่าง สร้างรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน

28 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 119 ม.5 บ้านคลองช้าง ต.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ซึ่งเปิดเป็นฟาร์มด้วงมะพร้าวขนาดใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลก ของนางสาวนัฐศ์วรรณ เพ็ชรประเสริฐ หรือคุณนัฐ อายุ 39 ปีข้าราชการสาว ระดับผู้บริหาร ดีกรีปริญญาโท ที่อยากมีรายได้เสริมให้กับครอบครัว จึงไปศึกษาเรียนรู้ จนสามารถเปิดตลาดด้วงมะพร้าวทอด และส่งขายแบบฟรีชแข็ง ทั้งปลีก และส่ง ให้กับตัวแทนภาคเหนือในหลายจังหวัด สร้างรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน

คุณนัฐฯ เล่าให้ฟังว่าย้อนไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว คุณพ่อของตนยึดอาชีพเลี้ยงวัวกว่า 200 ตัว ต่อมาล้มป่วยด้วยอาการปวดหลัง ไม่สามารถทำงานหนักได้ตนจึงตัดสินใจให้คุณพ่อเลิกอาชีพเลี้ยงวัว โดยการขายวัวทั้งหมด เมื่อไม่มีวัว ด้วยความที่คุณพ่อเป็นคนขยันจากเคยทำงานทุกวันให้มานั่งมานอนเฉยๆ ก็เกิดอาการเครียด ตนจึงคิดหาอะไรให้คุณพ่อทำ โดยอยากจะยึดงานที่ไม่ต้องลงแรงมากนัก ดูแลไม่ยาก แต่อยากให้อยู่บนพื้นฐานของเกษตรพอเพียง ตนจึงไปศึกษาเรื่องการเลี้ยงไส้เดือน แต่ด้วยความที่ตนกลัวไส้เดือน ก็เลยคิดว่าไม่สามารถไปต่อได้แน่ จึงเริ่มศึกษาใหม่ จนได้พบกับฟาร์มด้วงสาคู(ในภาคใต้) ซึ่ง ณ ตอนนั้นเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ในพื้นที่ภาคเหนือไม่มีเลย ตนจึงไปศึกษาดูงาน และขั้นตอนต่างๆ ของการเลี้ยงด้วงสาคู แต่ด้วยพื้นที่บ้านเรามีต้นมะพร้าวเยอะมาก ตนจึงลองมาดัดแปลงเลี้ยงด้วงด้วยมะพร้าว จึงกลายเป็นด้วงมะพร้าวในปัจจุบัน ที่มีหน้าตา ขนาดใหญ่ และรสชาติอร่อยเหมือนด้วงสาคูในภาคใต้ทุกอย่าง

คุณนัฐฯ เล่าให้ฟังต่อว่า หลักจากมีความรู้แล้วก็เริ่มทดลองเลี้ยงที่หลังบ้าน เมื่อ 6 ปีที่แล้ว แรกๆ ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยมีใครกล้าทาน ประกอบกับตลาดยังไม่เป็นที่รู้จัก ตนจึงเปิดหน้าร้านขายแมลงทอดเป็นของตัวเอง โดยการนำด้วงมะพร้าวไปทอดขาย โพสขายทางโลกโซเชียล และติดต่อหาช่องทางขายให้กับกลุ่มร้านแมลงทอด จนกระทั่งประสบความสำเร็จ คนพิษณุโลก ให้ความสนใจด้วงมะพร้าวทอดกันมาก เพราะรสชาติอร่อย และมีโปรตีน แคลเซียมสูง จนปัจจุบันต้องขยายสาขาร้านแมลงทอดเพิ่มขึ้น และขายส่งให้กับร้านแมลงทอดในจังหวัดพิษณุโลกและต่างจังหวัด จนปัจจุบันด้วงในฟาร์มไม่เพียงพอต่อความต้องการของกลุ่มลูกค้าเพราะฟาร์มด้วงมะพร้าวในพื้นที่ภาคเหนือนั้น ยังไม่นิยมเลี้ยงกัน ทำให้ราคาของด้วงมะพร้าวยังอยู่ในเกณฑ์สูงถึงกิโลกรัมละ 180-200 บาท และหากทอดแล้วยิ่งเพิ่มมูลค่าเข้าไปอีก ทำให้ทุกวันนี้ ด้วงมะพร้าวสามารถสร้างรายได้ให้ตนวันละ 5-6 พันบาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 1-2 แสนบาทเลยทีเดียว

คุณนัฐฯเล่าต่อว่า จริงๆแล้วเจ้า ‘ด้วงมะพร้าว‘ เป็นแมลงที่เลี้ยงง่ายไม่ยุ่งอยากเท่าไหร่นัก โดยสูตรอาหารของทางฟาร์มจะใช้เพียง กากน้ำตาล มันสำปะหลังแห้ง รำอ่อน อาหารหมูเล็ก และเปลือกมะพร้าว นำมาใส่ภาชนะที่จะเลี้ยง โดยแนะนำว่าควรเป็นกะละมังขนาดประมาณ 50 เซนติเมตร เมื่อเตรียมส่วนประกอบครบถ้วนแล้วน้ำมาผสมกันในกะละมัง โดยเติมน้ำลงไปให้พอแฉะๆ และใช้เปลือกมะพร้าวปิดหน้าอาหารไว้ พร้อมนำฝามาปิดโดยให้มีรูระบายอากาศถ่ายเท โดยจะเลี้ยง 4 คู่ ต่อ 1 กะละมัง ซึ่งปกติแล้วด้วงสาคูจะไข่ทุกวัน หลังจากปล่อยพ่อแม่พันธุ์ลงไปทิ้งระยะเวลาประมาณ 1-2  สัปดาห์ เมื่อลูกตกแล้ว ให้จับพ่อแม่พันธุ์ไปเลี้ยงในกะละมังอันใหม่เพื่อขยายพันธุ์ต่อไป โดยวงจรชีวิตของเจ้าด้วงสาคู สามารถอยู่ได้ประมาณ 3 สัปดาห์กว่าๆ ก็จะตายไปเองตามธรรมชาติ

หลังจากนั้นก็หมั่นดูหน้าอาหารไม่ให้แห้ง ซึ่งถ้าหน้าอาหารแห้งก็ให้พรมน้ำ เลี้ยงจนตัวหนอนโตประมาณเท่านิ้วโป้ง ใช้เวลาประมาณ 35-40 วัน ก็สามารถจับส่งขายได้แล้ว แต่หากต้องการเลี้ยงเพื่อเป็นพ่อแม่พันธุ์ ต้องเลี้ยงไปอีกประมาณ 20 วัน ตัวหนอนก็จะเริ่มเข้าฝัก คล้ายดักแด้ หลังจากนั้นอีกประมาณ 10 วันก็จะออกมาเป็นตัวด้วงสาคู ส่วนการดูเพศนั้นตัวผู้จะมีงวงสั้นกว่าตัวเมีย และงวงของตัวผู้จะมีขนเล็กๆอยู่ ขณะที่ตัวเมียงวงจะเรียวยาว

สำหรับวิธีการส่งขายตัวหนอนด้วงสาคู ก่อนจะนำส่ง 1 วัน ทางฟาร์มจะทำการล้างท้องตัวหนอน ด้วยการให้หนอนด้วงมะพร้าวกินกะทิ และฟักทอง และนำไปแช่น้ำไว้จนกว่าเจ้าด้วงมะพร้าวจะถ่ายเอาฟักทองออกมา(ถือว่าเป็นการล้างท้องด้วงมะพร้าว) ซึ่งหากไม่ล้างท้องกลิ่นของตัวหนอนก็จะมีลักษณะเหมือนสูตรอาหารที่เลี้ยงไว้ โดยใน 1 กะละมัง จะได้น้ำหนักตัวหนอนประมาณ 7-8 ขีด หรือประมาณ 100-150 ตัว ส่วนราคาขาย คือขายแบบแช่ฟรีซ สามารถอยู่ได้ 7-8เดือน ราคาจะอยู่ที่ 180-200 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม นอกจากนี้ตนยังรับซื้อด้วงมะพร้าวอีกด้วยเพราะตลาดของตนยังมีความต้องการสูง ส่วนราคาก็ขึ้นอยู่กับขนาดของตัวด้วงมะพร้าว

สำหรับใครที่สนใจอยากมีอาชีพเสริม ด้วยการเลี้ยงด้วงมะพร้าว ตนเองก็มีพ่อแม่พันธุ์จำหน่ายในราคา คู่ละ 8 บาท หรืออยากได้ความรู้เพิ่มเติม เทคนิควิธีการเลี้ยง ตนก็ยินดีที่จะถ่ายทอดให้ทุกขั้นตอน และทางฟาร์มก็รับซื้อด้วยสามารถติดต่อมาพูดคุย สอบถามรายละเอียด หรือสั่งซื้อด้วงมะพร้าวได้ทาง Facebook : คุณนัฐ ฟาร์มแมลงพิษณุโลก หรือติดต่อเบอร์ 0949217277

แสดงความคิดเห็น