ข้าราชการสาวสืบสาน “ข้าวโปง” ขนมไทยโบราณหาทานยาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในทุกๆวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดของข้าราชการ ที่บ้านเลขที่ 149 ม.4 ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นบ้านของนางเอื้อมพร ลิ้มตระกูล อายุ 41 ปี ข้าราชการท้องถิ่น อบต.ท่าทอง จะใช้เวลาว่างในวันหยุดสืบสานการทำข้าวโปง ขนมไทยโบราณที่ปัจจุบันหาทานได้ยาก หรือหากหาทานได้ก็มักจะเป็นวิธีการทำแบบสมัยใหม่ ทำให้รสชาติจะผิดเพี้ยนไปจากสมัยโบราณ ทุกวันอาทิตย์จะมีเพื่อนบ้าน คนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน ที่ทราบข่าวมาช่วยทำ นั่งพูดคุยสารทุกข์สุขดิบกันไปตามวิถีของคนชนบท โดยทำขายที่บ้านอาศัยโพสต์ผ่าน facebook ใครทราบข่าวก็จะแวะเข้ามาอุดหนุนถึงบ้าน หรือหากใครสั่งจองก็จะนัดรับตามจุดต่างๆในพื้นที่ อ.วังทอง โดยทุกๆ วันอาทิตย์จะทำขาย 100-200 กล่องแล้วแต่ออเดอร์ที่สั่งจองมา ก็นับได้ว่านอกจากจะเป็นการสืบสานขนมไทยโบราณที่เด็กสมัยใหม่แทบไม่รู้จักให้คงอยู่ต่อไปแล้ว ยังเป็นการหารายได้เสริมให้กับครอบครัวได้อีกทางหนึ่งด้วย

นางเอื้อมพร ลิ้มตระกูล เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าพื้นเพเดิมของคุณแม่และตระกูล จะเป็นคนไพศาลี จ.นครสวรรค์ พอตนมีครอบครัวก็ย้ายมาอยู่ที่ จ.พิษณุโลก ก็พอได้ความรู้ในการทำขนมไทยโบราณ หลากหลายอยากมาจากคุณแม่ จนกระทั่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาตนอยากกินขนมข้าวโปง แต่ก็หาทานไม่ได้เลย จะขับรถไปหาคุณแม่ที่ จ.นครสวรรค์ก็ไม่สะดวก จึงลงมือทำเองเพราะสมัยก่อนตอนเป็นเด็กก็จะเป็นลูกมือของคุณแม่ประจำ พอทำเสร็จเรียบร้อยก็แจกจ่ายเพื่อนบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุในหมู่บ้านได้ทาน ก็ปรากฏว่าทุกคนชอบ เพราะเป็นขนมโบราณที่คนเฒ่าคนแก่รู้จักกันดีแต่หาทานไม่ได้แล้ว ก็มาไถ่ถามขอซื้อ หรือให้ทำจะซื้อไปทาน ตนก็เลยโพสผ่าน facebook ว่าจะทำขนมข้าวโปงทุกๆ วันอาทิตย์ใครสนใจก็ให้พรีออเดอร์มาแล้วก็มานัดรับในพื้นที่ อ.วังทอง หรือเข้ามารับที่บ้านได้เลย ปรากฏว่าวันอาทิตย์สัปดาห์แรกที่โพสต์มีลูกค้าสั่งจองมาถึง 100 กล่อง ซึ่งตนขายกล่องละ 20 บาทเท่านั้น พออาทิตย์สัปดาห์ที่ 2 ก็มีออเดอร์มาถึง 150 -200 กล่อง ตนก็เลยตั้งใจว่าจะทำขายจริงๆ ในทุกๆ วันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุดของข้าราชการ

นางเอื้อมพร ลิ้มตระกูล บอกต่ออีกว่า ขนมข้าวโปงของตนจะใช้วิธีการทำแบบโบราณอย่างแท้จริงทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่นำข้าวเหนียวใหม่ไปนึ่งให้งวด จากนั้นก็นำมาใส่ครกไม้ขนาดใหญ่ แล้วตำหรือโขลกทั้งๆที่ข้าวเหนียวยังร้อนอยู่ โขลกไปเรื่อยๆ จนกว่าข้าวเหนียวจะเนื้อเนียนกลายเป็นแป้ง แต่ที่สำคัญต้องทำแข่งกับเวลาหรือต้องโขลกให้เสร็จก่อนข้าวเหนียวจะเย็น จากนั้นก็โรยงาดำที่คั่วที่โขลกละเอียดด้วยครกไม้ไว้แล้ว และโขลกต่อให้เนื้อข้าวเหนียวกับงาเข้ากัน จากนั้นก็รีบนำมาปั้น ยัดไส้ด้วย ไส้ถั่วโบราณที่จะทำเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ คือใช้ถั่วลิสงคั่วแล้วไปโขลกให้พอแหลก แต่ไม่ต้องละเอียดมาก จากนั้นก็นำงาดำไปคั่วแล้วโขลกละเอียด และน้ำตาลปีบ มาคลุกเคล้าในสัดส่วนที่พอเหมาะก็จะได้ไส้ของขนมข้าวโปง ส่วนรสชาติขนมข้าวโปงเนื้อจะเด้งๆ แต่นิ่มๆ ไม่เหนียว จะมีกลิ่นหอมของงาดำคั่ว เมื่อเคี้ยวโดนไส้ก็จะได้กลิ่นหอมของถั่วกับงา รสชาติจะออกมันๆ หวานนิดหน่อยจากน้ำปีบทุกอย่างจะลงตัวและอร่อยมาก

ส่วนราคาขายของตนก็ไม่แพง 1 กล่องจะมี 6 ชิ้นใหญ่ๆ แบบเต็มคำ ราคาเพียง 20 บาท แต่ด้วยข้าวโปงเป็นขนมโบราณไม่ได้ใส่สารอะไรทั้งสิ้น จึงควรทานภายใน 24 ชม.เพราะถ้าตัวขนมโดนลมจะแข็งตัว อาจจะไม่นิ่มได้ หรือบางรายก็ชอบนำไปใส่ตู้เย็นเก็บไว้ เวลาจะทานก็นำมาทอดก็จะอร่อยไปอีกแบบ สำหรับใครที่อยากจะลิ้มลองรสชาติของขนมข้าวโปงโบราณ ซึ่งตนจะทำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งคือทุกๆ วันอาทิตย์ ก็สามารถโทรสั่งจองได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 0817072074

 

////////////

แสดงความคิดเห็น