ส.ว.ลงพื้นที่วัดโบสถ์ ผอ.เขื่อนแควน้อย นั่งนิ่งไม่ยอมตอบปัญหาชาวบ้านร้อง

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.66  พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร  รองประธานวุฒิสภา และประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน นำคณะสมาชิกวุฒิสภาประกอบด้วย  พลอากาศเอก อดิศักดิ์ กลั่นเสนาะ  รองประธานคณะกรรมการ คนที่หนึ่ง นายชลิต แก้วจินดา รองประธานคณะกรรมการ คนที่สอง พลเอก สำเริง ศิวาดำรงค์พลเอก โปฎก บุนนาค นายทรงเดช เสมอคำ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ นายเฉลียว เกาะแก้ว นายจัตุรงค์ เสริมสุข  นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ พลเอก ประสาท สุขเกษตร นางกอบกุล อาภากร ณ อยุธยา ศาสตราจารย์พิเศษกาญจนารัตน์ วิโรน์ และนางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ

ทั้งนี้ เพื่อไปรับฟังปัญหาและแนวทางแก้ไขจากประชาชน  ที่บึงทุ่งโขง หมู่ที่ 3 ต.หินลาด อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก โดยมีนายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ให้การต้อนรับและชี้แจงปัญหาพื้นที่  โดยมีนายแผน พานทอง นายก อบต.หินลาด กล่าวรายงานว่า ตำบลหินลาด มีบึงหนองโขง 133 ไร่ ในพื้นที่หมู่ที่ 3,4,5,6 ตำบลหินลาด มีปลาดุกอุยแห่งเดียวของอำเภอ ที่มีความต้องการอนุรักษ์และขยายพันธุ์  พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว  และการเกษตรกว่า 1,000 ไร ปลูกมันสำปะหลัง  สวนดอกงิ้ว 30 ไร่ น้ำตำเขาเยินยอ เขตป่าชุมชน เส้นทางลำบาก  แต่ยังไม่ได้รับการพัฒนา พื้นที่ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้

พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร กล่าวว่า การลงพื้นที่ของสมาชิกวุฒิสภา ปัญหาปากท้องประชาชน เพื่อนำข้อเรียกร้องเสนอนายกฯ และ ครม.สำหรับบทบาทหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภา คือ กลั่นกรองกฎหมาย และให้ความเห็นชอบผู้ที่จะไปดำรงตำแหน่งในกรรมการองค์กรอิสระ  ตลอดจนควบคุมบริหารราชการแผ่นดิน รวมทั้งการปฏิรูปประเทศ งบประมาณต้องอยู่ในแผนพัฒนาขาติ   และประชาชนต้องมีส่วนร่วม วันนี้สมาชิกวุฒิสภา จึงมาสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน เพื่อนำเรียนนายกฯ  และ เรื่องสิทธิที่ดินเอกสารหลักฐาน ทับซ้อนที่สาธารณประโยชน์ เนื่องจากสมัยก่อนไม่มี หลักฐาน เพียงบันทึกไว้ วิธีการพิสูจน์  ในที่ประชุมมีประชาชนได้เสนอประเด็นเกี่ยวกับบริหารจัดการน้ำของเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เรื่องการใช้น้ำหน้าแล้งทำนา โดยไม่มีเงื่อนไข  เพราะจะไม่มีข้าวกินแน่นอน

ด้านนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการก่อสร้างเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ที่ประชาชนได้เสียสละบริจาคที่ดินทำกิน  เพื่อประโยชน์ของคนในท้องถิ่น   โดยเฉพาะ “นั่งแค่แช่น้ำ”  บริเวณหน้าเขื่อนในช่วงเดือนเมษายน และเทศกาลสงกรานต์  ทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาเล่นน้ำ  จนสามารถสร้าง รายได้ให้กับประชาชน รวมสินค้าการเกษตร และอาหารการกิน มีเงินสะพัดในพื้นที่ นับ 100 ล้านบาท  ผู้อำนวยการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน 4-5 คนที่ผ่านมา  ได้อนุญาตให้การจัดส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่  แต่ทำไม ผอ.คนปัจจุบันไม่ยอมให้จัด  เรื่องนี้ผมจะไปสอบถามอธิบดีกรมชลประทาน และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ทั้งที่นายวรวุฒิ เนียมน้อย ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน  ซึ่งนั่งอยู่ในที่ประชุมด้วย โดยไม่ยอมตอบคำถามดังกล่าวแต่อย่างใด

แสดงความคิดเห็น