ชาวบ้านอ.เนินมะปราง ปลูกพริกแซมแปลงทุเรียนปีนี้มีรายได้ดี

พิษณุโลก ชาวบ้านตำบลชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เร่งเก็บพริกพันธุ์อัมพวาโกลด์ และพันธุ์อัมพวาเพอร์เฟค ส่งขายโรงงานและส่งออกประเทศอินโดนีเชีย และ จีน เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ดี แซมแปลงทุเรียนระหว่างรอผลผลิตเติบโต มีรายได้ปีละนับล้านบาท

วันที่ 4 กันยายน 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านฐานชัยมณี ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก หลายพื้นที่คึกคักไปด้วยชาวบ้านที่ออกมารับจ้างเก็บพริก เพื่อส่งขายให้กับโรงงานและมีล้งมารับซื้อใส่ตู้คอนเทรนเนอร์ นำส่งออกไปขายให้กับประเทศอินโดนีเชีย และประเทศจีน โดยชาวบ้านบางรายมีรายได้จากการรับจ้างเก็บพริกวันละ 800-1,000 บาท ขณะที่ชาวสวนบอกปลูกพริกเป็นรายได้เสริมระหว่างรอทุเรียนผลไม้หลักที่กำลังปลูก และเติบโต แต่ละปีมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เฉลี่ยปีละนับล้านบาทเลยทีเดียว

นางศิริพร จันทร์อยู่ อายุ 59 ปี เจ้าของสวนผลไม้คุณศิริพร บ้านเลขที่ 109/2 หมู่ 11 บ้านฐานชัยมณี ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนเองมีพื้นที่ปลูกผลไม้หลากหลายอย่าง ทั้งทุเรียน เงาะ ลำไย มะปราง มะยงชิด มันสำปะหลัง บนพื้นที่นับ 100 ไร่ โดยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ได้นำพื้นที่บริเวณใกล้บ้าน ที่เดิมเคยปลูกมันสำปะหลัง กว่า 5 ไร่ แต่ได้พลิกที่ดินหันมาปลูกพริกแทน เนื่องจากเห็นมีตลาดส่งออกได้ดีกว่า โดยพริกที่ปลูกเป็นพันธุ์อัมพวาโกลด์ และพันธุ์อัมพวาเพอร์เฟค ซึ่งพันธุ์อัมพวาโกลด์เป็นพริกที่เม็ดใหญ่ ปลูกง่าย ให้ผลผลิตดกดี ส่วนอัมพวาเพอร์เฟค เป็นพริกพันธุ์เม็ดเล็กให้ผลดกดี ทนทานต่อโรคสูง ซึ่งการเก็บครั้งหนึ่งได้ผลผลิต 2-3 ตันต่อครั้ง ซึ่งพริกแต่ละรุ่นสามารถเก็บผลผลิตได้มากสุดถึง 10 ครั้ง การปลูกพริกเพื่อรอต้นทุเรียนที่เริ่มปลูกเติบโต จนสามารถออกผลผลิตได้ ซึ่งต้องใช้เวลานานไม่ต่ำกว่า 5 ปี

สำหรับต้นพริกที่ปลูก ถือว่าเป็นผลผลิตที่สร้างรายได้ดี มีตลาดรับซื้อแน่นอน มีล้งมารอรับซื้อถึงที่หมู่บ้าน ราคาขายส่ง แพงสุดจากหน้าสวน ราคากิโลกรัมละ 50 บาท ขึ้นอยู่กับผลผลิตว่ามีความสวยงาม และช่วงตลาดที่มีความต้องการ สำหรับสวนพริกที่ปลูกมีพื้นที่ไม่มากประมาณ 5 ไร่ ปลูกเต็มพื้นที่ ช่วงออกใหม่ จะต้องจ้างคนงานมาก 40-50 คน เพื่อเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตให้ทันส่งขาย ช่วงแรกๆ เก็บได้สูงสุด 3 ตัน/ครั้ง ส่วนอัตราการจ้างคนงานเก็บขึ้นอยู่กับปริมาณการเก็บได้ มีตั้งแต่กิโลกรัมละ 8 บาท จนถึง 10 บาท บางคนเก็บเร็วสามารถเก็บพริกได้ถึงวันละ 100 กิโลกรัม หรือมีรายได้วันละ 1,000 บาท นับว่าเป็นรายได้ที่ดีมากสำหรับอาชีพการรับจ้างเก็บพริกในพื้นที่

นางศิริพร กล่าวว่า สำหรับการปลูกพริกไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาเพาะกล้าประมาณ 30-40 วัน ก่อนนำลงปลูก ใช้เวลาปลูกดูแลต้นประมาณ 2 เดือน ก็ออกดอก และมีเม็ดพริกสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ สำหรับพริกที่เก็บจะเป็นพริกแก่เม็ดสีเขียว เป็นที่นิยมมากว่า เม็ดสีแดง และราคาพริกหน้าสวนวันนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 35 บาท เป็นราคาที่พออยู่ได้ วันนี้เก็บผลผลิตได้ 1,800 กิโลกรัมเท่านั้น เนื่องจากคนงานน้อย และเก็บเป็นครั้งที่ 7 แล้ว ส่วนการดูแลพริกต้องระวังเรื่องโรคระบาดเท่านั้น ถ้ามีการระบาดของโรคต้องไถทิ้ง บางรายเก็บผลผลิตไปได้เพียง 2 ครั้งเจอโรคระบาด ทำให้ประสบปัญหาขาดทุน เพราะค่าปุ๋ย ค่ายาแพงมาก แต่หากชาวสวนดูแลดี บำรุงต้น บำรุงดอกดี และควบคุมโรคไม่ให้ระบาดได้ ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ถึง 10 ครั้ง ซึ่งจะทำให้เจ้าของสวนจะมีรายได้มากถึง 1 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ช่วง 3-5 เดือนเท่านั้น

ด้านนางระเบียบ บวบทอง คนงาน กล่าวว่า มีอาชีพรับจ้างเก็บพริก เป็นงานสบาย แม้ต้องทำงานกลางแจ้ง เก็บพริกจากต้นที่สวนพริกให้ผลผลิตดกดี ช่วงนี้พริกมาก ได้ค่าจ้างกิโลกรัมละ 9 บาท วันหนึ่งตนมีรายได้ประมาณ 500 บาท ซึ่งคนวัยรุ่นหนุ่มสาวมีความชำนาญ เก็บรวดเร็วจะมีรายได้มากกว่า บางคนรับค่าจ้างวันละ 900 บาท หรือมากกว่าพันบาทเลยก็มี นับเป็นการสร้างรายได้ดี คนงานในพื้นที่ได้มีงานทำ และมีรายได้ตลอดทั้งปี หลังจากว่างจากการเก็บเกี่ยวผลไม้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็รับจ้างเก็บทุเรียน ช่วงนี้ก็จะมาเก็บพริก สลับกับการเก็บเงาะ ลำไย ทำให้ชาวบ้านมีรายได้ดีขึ้น

//////

แสดงความคิดเห็น