“โชติกา  วงศ์อนันต์” ศิลปินผู้สร้างศิลปะจากใบไม้ แห่ง “วนธารา”

ทุกๆวันศุกร์เสาร์อาทิ ตย์ จะมีภาพของครอบครัวผู้สูงวัย คู่รักหนุ่มสาว มานั่งทำ ศิลปะประดิษฐ์ ที่เขาเรียกว่า การพิมพ์ผ้าด้วยใบไม้  การมัดย้อม และการหมกผ้าด้วยใบไม้ ซึ่งเป็นกิจกรรม ศิลปะ จากธรรมชาติ ที่น้องดิลโชติกา จากวนธารารีสอร์ท มีหน้าที่ ในการเชื่อมโยง ความรู้ทางด้านศิลปะเหล่านี้ กับผู้มาเยือนทุกคน

ดิว เล่าให้ฟังว่า เธอจบ ด้านแฟชั่นและสิ่งทอ จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก และหลงใหลเรื่องแฟชั่นและการออกแบบ โดยเฉพาะ ผืนผ้าไทย หลายปีที่เธอมุ่งมั่นในการออกแบบและดีไซน์ผ้าไทย ให้เป็นชุดที่ทันสมัยและงดงาม ด้วยความสุขจากการออกแบบ ที่เธอคาดหวังผล ความสมบูรณ์แบบมากที่สุด บ่อยครั้งความคาดหวังเหล่านั้น ก็ไม่เคยสมหวัง ทำให้เกิด ความทุกข์ และมองว่า ชิ้นงานยังไม่ดีพอ  จนได้มีโอกาสเข้า ดูแล กิจกรรมงาน Eco Print หรือการพิมพ์สีบนผืนผ้าด้วยใบไม้

ซึ่งเธอสรุปให้ฟังว่าการย้อมสีผ้าวิธีธรรมชาติของ wanathara craft ใช้ 2 วิธี

-วิธีหมกใบไม้

สีที่ใช้และวิธีย้อม: เป็นสีของใบไม้ที่นำมาวางบนผ้าแล้วผ่านความร้อนในหม้อเปรอะ

ผลงาน : ผ้าจะเป็นสีและลวดลายของใบไม้และสีสนิมธรรมชาติจากหม้อ

-วิธีมัดย้อมชิโบริ

สีที่ใช้และวิธีย้อม : นำใบไม้หรือเปลือกไม้ที่ให้สีสับเป็นชิ้นเล็กและนำไปต้มทำน้ำสี ก่อนย้อมเราจะมัดผ้าโดยใช้วิธีชิโบริ และนำไปต้มในน้ำสีที่เตรียมไว้

ผลงาน: ผ้าจะเป็นสีธรรมชาติที่มีลวดลายตามการมัดหรือเย็บย้อมชิโบริ

ในฐานะ ผู้ดูแลกิจกรรม Eco Print   หรือ งานพิมพ์ผ้าด้วยสีสรรจากใบไม้ ที่หลากหลายรูปแบบ  ของ วนธารารีสอร์ท

ซึ่งเป็นงานศิลปะบนผืนผ้าสำหรับผู้มาท่องเที่ยวหรือเข้าพัก ได้ใช้เวลาในการทำงานผ้าจากธรรมชาติ   เธอเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยพื้นฐานความรู้ด้านดีไซน์และงานออกแบบ ที่เรียนมา จนทำให้เธอรู้สึกว่า งานที่ทำอยู่ตรงหน้า เป็นงานที่ ให้ความรู้สึกมากกว่างานผ้าทั่วไป เมื่อใช้ใบไม้ย้อมสี ก็มากกว่าความสวยงาม คือความสุข ในทุกครั้งที่ได้ลงมือทำชิ้นงาน เพราะใบไม้ ในวนธารา มีมากมาย จนเธอจดจำไม่หมด และก็สร้างเฉดสีได้ต่างกัน ลวดลายที่ไม่เคยเหมือนกัน พอๆกับสี ที่ให้กับผืนผ้านั้น มีเสน่ห์และแตกต่างกัน จนเธอรู้สึกว่า ทุกชิ้นงาน เป็นการรังสรรค์จากธรรมชาติ โดยแท้จริง อีกทั้งทำให้เกิดความนิ่ง ความสงบ ในบรรยากาศ ท่ามกลาง ผืนป่าริมน้ำเข็กที่ใสสะอาดในช่วงปลายปีแบบนี้ประกอบกับเสียงน้ำไหล และความร่มเย็น ยิ่งทำให้งานวิทยากร สอนศิลปะบนผืนผ้า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ตัวเธอเองมีความสุข และหลงรักงานชิ้นนี้มาก เพราะเธอมองว่า ในการทำผ้าผืนนี้ให้มีลายใบไม้ มันมีการส่งต่อ ความสุข ไปสู่เด็กๆ ครอบครัว ผู้สูงวัย หรือแม้แต่ ผู้เข้าอบรมสัมมนา หลายคณะ ที่เขารู้สึกว่า มันมีความ แปลกและไม่ค่อยได้พบเห็น  ทุกๆครั้งที่เธอได้ทำ กิจกรรม กับเด็กๆ มักจะเป็นเรื่องของการมัดย้อม ผ้า ซึ่งเด็กๆจะชอบมากเพราะไม่ซับซ้อน เข้าถึงง่าย และการปรับใช้ปูนขาว เพื่อคุมสี เป็นเวลาสำคัญที่ทำให้เด็กๆสนุก ในขณะเดียวกัน Eco Print ก็จะสามารถ ทำให้คู่รักหนุ่มสาว หรือผู้สูงวัย ได้เข้าถึงความสงบ จากการค่อยๆ เลือกใบไม้ มาวางในตำแหน่งที่ตนเองถนัดและชื่นชอบ ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการพิมพ์ลายในผ้า และนำไปนึ่ง รอการแกะดูสีสัน จนได้ผลงานที่พอใจแล้วนำกลับบ้านสร้างความทรงจำการมาเยือน บ้านริมน้ำแห่งนี้ หลายคนกลับมาใหม่ และพาเพื่อนมา ไม่ใช่เพราะผ้าและมีสีสันของใบไม้เท่านั้น แต่มันคือความสุข ความสงบ ที่วนธารามีให้    ดิวมักจะบอก ผู้มา ทำกิจกรรม ทั้งหลายว่า สิ่งที่ทำอยู่เป็นงานศิลปะ ความคาดหวัง ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นบนผืนผ้า อาจคาดหวังได้เพียงระดับหนึ่ง แต่เมื่อ ธรรมชาติแสดงผลงานแล้ว เราจะได้เรียนรู้ ว่างานที่เราร่วมมือกับธรรมชาติออกแบบนั้น มันงดงามกว่า เพียงใด โดยเฉพาะ ชิ้นงานที่มันเกิดจาก การลงมือของทุกๆคนภายใต้ร่มเงาของธรรมชาติแห่งนี้ สิ่งที่ตามมา ก็คือสมาธิ และการซึมซับเวลาสำคัญ ที่บางคน มากับคุณพ่อคุณแม่ ที่เป็นผู้สูงวัย หลายคนไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของคุณพ่อคุณแม่มานานแล้ว และไม่ได้ทำอะไรบางอย่างร่วมกัน มานานหลายสิบปี ผืนผ้าลายใบไม้เหล่านี้ จึงเป็นสิ่งเชื่อมโยง และถักทอความสัมพันธ์ ในครอบครัว ให้เป็นมากกว่า กิจกรรม ศิลปะทั่วๆไป

3 ปีของการเป็นวิทยากรในการสอนผลิตงานศิลปะจากใบไม้และธรรมชาติ ทำให้เธอเห็นว่า ชีวิตของผู้คนทั่วไป จิตใจมีโอกาสมาสัมผัส กับธรรมชาติสายน้ำ และลมเย็นๆในผืนป่า บวกกับการทำงานศิลปะด้วยผืนผ้าที่ยึดโยง ความนิ่งความสงบ ผ่านการลงมือทำ ส่งผลให้ ความรู้สึก ของผู้คนที่ได้เข้ามาสัมผัส มีความละเอียดมากขึ้น อย่างน้อยรอยยิ้มและความผ่อนคลาย ในช่วงเวลาหนึ่ง ก็มีค่าพอ ที่จะทำให้เด็กๆ สนุกสนาน พ่อแม่ยิ้มออก และผู้สูงวัยมีความทรงจำ กับลูกๆ เป็นชุดความทรงจำใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น

//////

สุธีร์ เรืองโรจน์ พิษณุโลกฮอตนิวส์

แสดงความคิดเห็น