พิษณุโลกนายก “มนต์ชัย” แถลงนโยบายต่อสภาฯ พร้อมประสานอปท. เร่งแก้ปัญหาขยะ
วันที่ 13 กันยายน 2567 เวลา 09.00 น. นายนฤภพ ลิมปะพันธุ์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานเปิดการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก สมัยสามัญ สมัยที่ 2 (ครั้งที่ 2) ประจำปี พ.ศ.2567 ณ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ชั้น 2 อาคารบึงราชนก อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก โดยมีสมาชิกสภาฯ เข้าร่วมครบองค์ประชุม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก สื่อมวลชน และผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมฯ ซึ่งก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ประธานสภาฯ ได้แจ้งให้สมาชิกสภาฯ ทราบเกี่ยวกับให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกจะแถลงนโยบายต่อสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกก่อนเข้ารับหน้าที่ หลังจากการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2567 และคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อให้สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกได้รับทราบถึงนโยบาย เจตนารมณ์ ความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเจริญก้าวหน้าให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนแก่จังหวัดพิษณุโลกและเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลกอย่างทั่วถึง
โดย นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ได้แถลงนโยบายต่อสภาฯ ว่า 4 ปี ของการบริหารราชการต่อจากนี้ ขออาสาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลก ด้วยหัวใจที่พร้อมรับใช้และพัฒนาบ้านเกิดของเราให้ดียิ่งขึ้น โดยได้กำหนดนโยบายการบริหารงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับชาวพิษณุโลกทุกคน ภายใต้แนวคิด “เข้าใจ ใส่ใจ ห่วงใย รับใช้พิดโลก” อย่างต่อเนื่อง และเป็นเป้าหมายสูงสุดในการที่จะแก้ไขปัญหาของจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งจะพัฒนางานในทุกๆ ด้านอย่างถูกต้อง รวดเร็วและดีที่สุด ซึ่งจะต้องสอดคล้องตรงตามความต้องการของประชาชนและเหมาะสมกับท้องถิ่น โดยการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกที่มาจากการประสานแผนพัฒนาท้องถิ่นระดับอำเภอ การประชาคมที่เกิดจากความต้องการของทุกภาคส่วน ทั้งประชาชน หมู่บ้าน ชุมชน กลุ่มองค์กรต่างๆ หน่วยงานภาครัฐตั้งแต่ระดับท้องถิ่น อำเภอ จังหวัด รวมทั้งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์จังหวัด และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลก ให้รุ่งเรืองเฟื่องฟูตลอดไป
สำหรับนโยบายการบริหารงานจะดำเนินการให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ในระยะเวลา 4 ปี โดยจะยึดหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีหรือหลักธรรมาภิบาลเป็นสำคัญ 5 ด้าน ดังต่อไปนี้
นโยบายด้านที่ 1 “เมืองผู้สูงอายุ มีรอยยิ้ม มีความสุข” นโยบายด้านที่ 2 “หมอใกล้ตัว” นโยบายด้านที่ 3 “เที่ยวพิษณุโลกสนุกไม่แพ้เมืองหลัก”นโยบายด้านที่ 4 “เด็กพิษณุโลกฝันให้ไกล ไปให้ถึง” นโยบายด้านที่ 5 “พิษณุโลกพึ่งได้”
จากการบริหารราชการให้เป็นไปตามนโยบายทั้ง 5 ด้าน ที่กระผมได้แถลงต่อที่ประชุมสภาฯ แห่งนี้ กระผมขอเรียนว่าเป็นความมุ่งมั่นและตั้งใจจะนำความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่ผ่านมาของกระผม พร้อมด้วยทีมงานผู้บริหารที่ทรงคุณวุฒิและมีความเชี่ยวชาญเข้ามาร่วมกันพัฒนาและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ให้กับพี่น้องชาวจังหวัดพิษณุโลก อย่างสุดความสามารถ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านประธานสภาฯ และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของประชาชนในการใช้ อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ จะได้ร่วมมือร่วมใจให้ความอนุเคราะห์และสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะผู้บริหาร ตลอดจนข้าราชการประจำจะได้นำนโยบายดังกล่าวข้างต้นไปสู่การปฏิบัติ โดยจะดำเนินการภายใต้ระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกให้เกิดเป็นรูปธรรม ซึ่งจะบูรณาการการทำงานกับทุกภาคส่วน ภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน ให้มีความเจริญก้าวหน้าและเกิดประโยชน์สูงสูดแก่ประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลกตลอดไป
หลังจากนั้นนายกอบจ.พิษณุโลกได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ถึงปัญหาเร่งด่วน วิกฤตขยะล้นเมือง ที่อปท.ทั้ง 33 แห่งนี้จังหวัดพิษณุโลก กำลังประสบปัญหา ไม่มีสถานที่กำจัดขยะ โดยระบุว่า ปัญหาขยะ นับเป็นนโยบายเร่งด่วนที่อบจพิษณุโลกต้องเร่งดำเนินการ ในวันนี้ตนได้ประสาน เชิญนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 33 แห่ง มาร่วมประชุมกับอบจพิษณุโลกเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาระยะสั้นและระยะยาวสำหรับการจัดการขยะของจังหวัดพิษณุโลก สำหรับปัญหาระยะสั้นนั้น การพิจารณาให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่ง สามารถดำเนินการบ่อขยะฝังกบขนาดเล็กของตนเองได้ และต้องดำเนินการให้ถูกสุข ลักษณะ น่าจะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ส่วนระยะยาวนั้น การ จัดการโดยการคัดแยกขยะและผลิตเป็นขยะ rdf สำหรับเป็นเชื้อเพลิงสำหรับส่งโรงงานอุตสาหกรรมนั้น น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ต้องปรึกษากันร่วมกันระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ว่าจะสามารถดำเนินการกันอย่างไรจะเป็นในลักษณะร่วมทุน หรือลักษณะที่เอกชนเป็นผู้ลงทุนทำ ซึ่งวันนี้ต้องประชุมร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนในช่วงบ่าย ว่าผลสรุปจะเป็นเช่นใด