วันที่ 14 กันยายน 2567 นางศศิวัณย์ ศรีพรหม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพิษณุโลกและกรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวสายมูจากกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจย่านเยาวราชและเฉลิมกรุง จำนวน 60 คน ที่วัดราชบูรณะ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งเดินทางมากราบหลวงพ่อสำลี หรือพระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ เพื่อให้เจิมนะมะมน มนต์นางพญา ที่หลังมือและฝ่ามือพร้อมปะพรมน้ำพุทธมนต์ เพื่อเปิดโชครับทรัพย์ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล ก่อนลอดเรือรับเสด็จสมัยรัชกาลที่ 5 ภายในศาลานาวาเสด็จน่านนที สถานที่ที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวจับบัตรคิวแล้วเข้าไปรอรับการเจิมมือกับหลวงพ่อสำลีเป็นประจำทุกวัน เพื่อสะเดาะเคราะห์ปัดเป่าทุกข์โศกให้หมดสิ้น โดยวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์จะมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาเจิมมือกับหลวงพ่อสำลีกันจำนวนมากในไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ทำให้สื่อมวลชนจิตอาสาในจังหวัดสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปช่วยหลวงพ่อสำลีกันทุกวัน
โอกาสนี้ หลวงพ่อสำลี หรือพระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ ได้มอบพระนางพญารุ่นปาฏิหาริย์ ให้กับ นางศศิวัณย์ ศรีพรหม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพิษณุโลกและกรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มอบให้กับนักธุรกิจย่านเยาวราชและเฉลิมกรุง ทั้ง 60 คน เก็บไว้เป็นที่ระลึก สำหรับพระนางพญารุ่นปาฏิหาริย์นี้ จัดสร้างเป็นปฐมฤกษ์ในวันที่นำสมเด็จพระนางพญาองค์ใหญ่ ขนาดหน้าตัก 8 เมตร สูง 12 เมตร หนา 4 เมตร ไปประดิษฐานบริเวณที่ดินสามเหลี่ยมของวัดราชบูรณะ ที่อยู่ริมถนนมิตรภาพ เชิงสะพานนเรศวรฝั่งตะวันออก มี 3 วัดล้อมรอบ คือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ วัดนางพญา และวัดราชบูรณะ เพื่อให้เป็นแลนมาร์กของจังหวัดพิษณุโลก โดยตั้งชื่อบริเวณดังกล่าวเป็น พุทธสถานสมเด็จพระนางพญาองค์ใหญ่
นางศศิวัณย์ ศรีพรหม กล่าวว่า นักท่องเที่ยวคณะนี้มานอนพักค้างคืนที่จังหวัดพิษณุโลกและจะพากันเดินทางไปกราบไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ตามวัดสำคัญ ๆ โดยเฉพาะวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ ที่มีพระพุทธชินราชเป็นพระประธานอยู่ในวิหารหลวง และจะพากันไปกราบสักระสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ศาลสมเด็จพระนเรศวร ภายในพระราชวังจันท และแวะรับประทานก๋วยเตี๋ยวห้อยขาอาหารขึ้นชื่อเมืองพิษณุโลก พร้อมจะพากันไปซื้อของฝากตามอัธยาศรัยในจุดต่าง ๆ ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ช่วงค่ำคืนนี้ก็จะไปเที่ยวชมงานแสงวิจิตร 5 ภาค ที่พระราชวังจันทน์ด้วย จึงคาดว่าจะสร้างเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้เป็นอย่างดีอีกทางหนึ่ง
//////