น้ำกะทิสดขึ้นราคาคนขายคนซื้อโอดครวญต้นทุนทำขนมเพิ่ม

วันที่ 30 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวจังหวัดพิษณุโลก ลงพื้นที่ตลาดร่วมใจ อาคาร 2 เพื่อลงตรวจสอบราคาน้ำกะทิสดที่ขึ้นราคารวดเดียวกว่า 10 บาท ทำให้คนขายน้ำกะทิสด และคนซื้อน้ำกะทิไปประกอบอาหาร และขนม โอดครวญไปตามๆกันเนื่องจากต้นทุนการทำอาหารและขนมจะเพิ่มทันที แต่ไม่สามารถขึ้นราคาอาหารและขนมที่จำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคได้

นางสาวมุกดา พลอยบุตร เจ้าของร้านพนามะพร้าวขูด-คั้น กล่าวว่า มะพร้าวที่ร้านได้นำมาจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีพ่อค้าคนกลางนำมาส่งซึ่งราคาล่าสุดทางร้านรับซื้อมะพร้าวกะทิ ลูกละ 42 บาท จากเดิมลูกละ 36 บาท เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ปัญหาน่าจะมาจากภาวะโลกร้อนทำให้ไม่มีมะพร้าว และค่าขนส่งมีราคาสูงขึ้น ทำให้ตนเองต้องขึ้นราคาน้ำกะทิสดที่กิโลกรัมละ 100 บาท ถ้าเป็นกะทิเนื้อมะพร้าวขาวล้วนกิโลกรัมละ 120 บาท ราคานี้คือมะพร้าวมาจากทางภาคใต้ ส่วนราคามะพร้าวที่มาจากพื้นที่ภาคเหนือ มะพร้าวกะทิลูกละ 35 บาท ราคากะทิสดกิโลกรัมละ 90 บาท ซึ่งราคานี้ยอมรับว่าได้รับผลกระทบทั้งตัวคนขายและคนซื้อ เนื่องจากคนซื้อรับราคากะทิสดไม่ไหวก็หันไปใช้น้ำกะทิสำเร็จรูปแบบกล่องแทนซึ่งมีราคาที่ถูกกว่า

นางสาวกุมารีรัตน์ ชมพูนุช ผู้จัดการร้านขนมถ้วยซิ่ง กล่าวว่า ตอนนี้ทางร้านได้รับผลกระทบจากน้ำกะทิสดขึ้นราคา จากราคาเดิมที่ซื้อมาทำขนมกิโลกรัมละ 70-80 บาท ตอนนี้ราคาน้ำกะทิสดเพิ่มขึ้นกิโลกรัม 100-120 บาท ทำให้ต้นทุนการผลิตขนมถ้วยเพิ่มขึ้นเพราะทางร้านต้องใช้กะทิคั้นสดใหม่และต้องเป็นมะพร้าวจากภาคใต้เท่านั้น ไม่สามารถใช้กะทิสำเร็จรูปแบบกล่องได้ เนื่องจากขนมที่ตนเองทำจะไม่มีรสชาติอร่อย แต่ก็ไม่สามารถขึ้นราคาขนมได้ ต้องจำหน่ายราคาเดิมกล่องละ 30 บาท เท่าเดิม

แสดงความคิดเห็น