ชาวไร่อ้อย พิษณุโลก-พิจิตร ทวงเงินชดเชยไม่เผาอ้อยตันละ120บาท

พิษณุโลก  ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อย พิษณุโลก -พิจิตร ร้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูกาลผลิต ปี 2566/2567และปี 2567/2568  หลังรัฐบาลมีนโยบายลดการเผาไร่อ้อย แต่จนถึงวันนี้ 2 ปีแล้ว รัฐบาลยังไม่จ่ายเงินชดเชยให้เกษตรกรแต่อย่างใด

 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ก.พ.68  ที่บริเวณ หน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ได้มีตัวแทนกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อย พิษณุโลก -พิจิตร  นำโดยนายเสกสรร  คล้ายท่าโรง  นายกสมาคมชาวไร่อ้อยพิษณุโลก-พิจิตร พร้อมคณะ  จำนวน  60  คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือขอให้ช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิต ปี 2566/2567และปี 2567/2568  รัฐบาลมีนโยบายลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 อย่างเคร่งครัด โดยเน้นภาคการเกษตรให้ลดการเผา   โดยมีนายอธิปไตย ไกรราช หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพิษณุโลกเป็นผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมส่วนราชการเดินทางมารับฟังปัญหา และรับเรื่องร้องเรียนจากเกษตรกรชาวไร่อ้อย ทั้ง จ.พิษณุโลกและจ.พิจิตร

นายเสกสรร  คล้ายท่าโรง  นายกสมาคมชาวไร้อ้อยพิษณุโลก-พิจิตร กล่าวว่า วันนี้ มาเป็นตัวแทนเกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพิจิตร โดยสมาคมชาวไร่อ้อยสมาคมพิษณุโลก-พิจิตร เดินทางมายื่นหนังสือกับผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อสะท้อนถึงภาครัฐ ที่รับปากกับเราว่า หากพวกเราตัดอ้อยสด ไม่เผาเพื่อลดฝุ่น pm 2.5 แล้วจะได้เงินตันละ 120 บาท ตามที่รัฐได้รับปากกับเราไว้ แต่วันนี้ 2 ปีแล้ว ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ จึงมาขอวิงวอนต่อภาครัฐให้เห็นใจชาวไร่อ้อย เพราะการตัดอ้อยสดมีต้นทุนสูงและใช้เวลานานเราพยายามทำตามนโยบายของภาครัฐแล้ว ซึ่งปัจจุบัน โรงงานน้ำตาลพิษณุโลก  94 เปอร์เซ็นต์ เป็นอ้อยตัดสด และมีอ้อยเผา แค่ 6% ซึ่งสมาชิกเกษตรกรไร่อ้อยเรา 6,000 ราย ได้สนองนโยบายขอให้ภาครัฐเห็นใจชาวไร่อ้อยด้วยเพราะการตัดอ้อยสดมีต้นทุนสูง  ตอนนี้ราคาอ้อยอยู่ที่ตันละ 1,100 บาทเศษๆ จากปีที่ผ่านมาอ้อยยังราคาตันละ 1,450 บาท แต่ปีนี้ราคาอ้อยตกต่ำ ทำให้ต้นทุนเราสูงมากขึ้น  จึงมาร้องทุกข์กับทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้ท่านไปพูดในรัฐสภาว่าเกษตรกรเดือดร้อนอย่างไร และเราจะดู อีกช่วงเวลาหนึ่งถ้าภาครัฐไม่ขยับหรือไม่มีข่าวดีๆให้กับชาวไร่อ้อย พวกเราก็จะขอเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปที่กระทรวง

“ตามที่รัฐบาลมีนโยบายลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 อย่างเคร่งครัด โดยเน้นภาคการเกษตรให้ลดการเผา อ้อยเป็นพืชชนิดหนึ่งที่ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล โดยเกษตรกรชาวไร่อ้อยได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งจะเห็นได้จากข้อมูลรายงานการผลิต ณ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 มีปริมาณอ้อยหีบทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 70,103,020.560 ตัน คิดเป็นอ้อยสดเข้าหีบร้อยละ 85.38 และอ้อยไฟไหม้ร้อยละ 14.62 จากตัวเลข ดังกล่าว จะเห็นว่าเกษตรกรชาวไร่อ้อยได้ให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสดส่งเข้าโรงงานเพิ่มมากขึ้น เมื่อเทียบกับฤดูกาลผลิตปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ลดมลพิษ รวมถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ให้กับพี่น้องประชาชน ปัจจุบันเกษตรกรชาวไร่อ้อยประสบปัญหาความเดือดร้อน ต้นทุนการผลิตอ้อยที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งค่า แรงงาน ค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าหญ้า ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งค่าตัดอ้อยสด เป็นต้น ในฐานะสมาคมชาวไร่อ้อยพิษณุโลก – พิจิตร ทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย ขอความกรุณาท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พิจารณาช่วยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดส่งโรงงานให้ได้รับเงินช่วยเหลือ ตันละ 120 บาท”

ต่อมา นายพงษ์มนู  ทองหนัก ส.ส.พิษณุโลก เขต 3  ได้เดินทางมารับฟังปัญหาจากเกษตรกร  ก่อนต่อสายตรงโทรศัพท์หา นายเอกนัฐ พร้อมพันธุ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  ยืนยันให้ความช่วยเหลือ กลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อย ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุม ได้รับความพอใจ แยกย้ายกลับภูมิลำเนา โดยระบุว่า เราได้นำเรื่องนี้เข้าประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย สรุปเสร็จส่งให้กับ ครม.พิจารณาไปแล้ว ทั้งอ้อยสดและใบรวมกัน 120 บาท/ตัน ส่งไปตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 จากมาตรการก่อนที่เคยให้ 120 บาท เคยถูกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)มีความเห็นกันว่าทำกันแล้ว ไม่มีประสิทธิภาพ ทาง สตง . ก็ได้มีการคุยกับอุตสาหกรรม และกระทรวงอื่นๆ ทำแล้วมีปัญหาไม่มีประสิทธิภาพ ขณะนี้ก็ได้มีการพูดคุยหารือ โดยหลักได้ขอเงินจาก ธกส. จำนวนเงิน 7-8 พันล้านบาท ซึ่งจะเพียงพอ ขณะนี้เราลดการเผาไร่อ้อย ไปมาก เมื่อเทียบกับปีที่แล้วลดลง 3 เท่า

…….

 

แสดงความคิดเห็น