เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนเกษตร “ไฮฮิลล์ฟาร์ม” บ้านรักไทย ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานเปิดงาน “เที่ยว ชม ชิมช้อป กิน นอน” ปี 4 ที่สวนไฮฮิลล์ฟาร์ม โดยมี นางสาวศศิวันย์ ศรีพรหม กรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายศรณ์ กันตรัตนากุล เจ้าของสวนไฮฮิลล์ฟาร์ม และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง กิจกรรมครั้งนี้จัดโดยความร่วมมือระหว่างสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพิษณุโลก และสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดพิษณุโลก เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน ผ่านการเปิดสวนให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์จริงในแหล่งผลิตทุเรียนคุณภาพ พันธุ์หลงลับแลและหลินลับแล รวมถึงผลไม้หลากชนิด
ภายในงาน นักท่องเที่ยวสามารถร่วมกิจกรรมครบวงจร ทั้งชิมทุเรียนพันธุ์หายาก ช้อปผลไม้สดจากสวน และชมกระบวนการผลิตแบบใกล้ชิดตั้งแต่การเก็บเกี่ยวจนถึงการบรรจุหีบห่อ นอกจากนี้ยังมีตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์จากชุมชน นิทรรศการการจัดการสวนไม้ผลภายใต้สภาพอากาศร้อน และการสาธิตขนส่งผลไม้โดยไปรษณีย์ไทย
นายศรณ์ กันตรัตนากุล เจ้าของสวนไฮฮิลล์ฟาร์ม กล่าวว่า สวนแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ภูเขาสูงกว่า 450 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีภูมิอากาศเย็นสบาย ดินอุดมด้วยแร่ธาตุ เหมาะอย่างยิ่งต่อการปลูกผลไม้คุณภาพ โดยเฉพาะทุเรียนหลงลับแล ซึ่งเป็นพันธุ์หายากจากจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่สวนแห่งนี้ปลูกไว้กว่า 1,800 ต้น รวมถึงทุเรียนพันธุ์อื่นอีกหลายสายพันธุ์ เช่น หมอนทอง มูซันคิง พวงมณี ก้านยาว ทองลินจง และโอวฉี่
นอกจากทุเรียน ยังมีผลไม้อื่น ๆ เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง มะยงชิด ลำไย และเมล่อนญี่ปุ่น ที่ปลูกในโรงเรือนระบบปิดกว่า 5 โรงเรือน โดยสวนแห่งนี้ยังเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการเกษตรที่จัดอบรมให้เกษตรกรในภาคเหนือตอนล่างเป็นประจำโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP จากกรมวิชาการเกษตร
สำหรับปีนี้ ปริมาณผลผลิตลดลงจากปีก่อน เนื่องจากอากาศหนาวจัดในช่วงต้นปี โดยอุณหภูมิต่ำสุดลงไปถึง 8 องศาเซลเซียส ทำให้ดอกทุเรียนบางส่วนร่วง ผลผลิตทุเรียนหลงลับแลอยู่ที่ประมาณ 15,000 ลูก และหมอนทองประมาณ 20,000 ลูก ขณะเดียวกัน ราคาทุเรียนปีนี้ลดลงจากปีก่อนถึงครึ่งหนึ่ง เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับกลไกตลาดและการตรวจสารตกค้างจากล้งที่รับซื้อในราคาต่ำ
“ในตลาดจีน ราคาทุเรียนไทยยังดีอยู่ แต่เป็นเพราะกลไกของตลาดและพ่อค้าคนกลางที่กดราคา อย่างไรก็ตาม เราในฐานะเกษตรกรก็ต้องปรับตัวตาม” นายศรณ์กล่าว พร้อมแสดงความกังวลเกี่ยวกับทุเรียนเวียดนามที่เข้ามาสวมสิทธิ์เป็นทุเรียนไทย ว่า “การนำเข้าทุเรียนจากประเทศอื่นแล้วใช้ชื่อไทยจะทำให้ภาพลักษณ์ทุเรียนไทยเสียหาย เพราะทุเรียนไทยถือเป็นตราพรีเมียมในตลาดจีน จึงอยากให้ภาครัฐและสื่อมวลชนช่วยกันรณรงค์และสกัดกั้น”
นายศรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุเรียนของไฮฮิลล์ฟาร์มยังคงได้รับความนิยมจากตลาดต่างประเทศ โดยมีตัวแทนจากจีน อังกฤษ เยอรมนี และฝรั่งเศสมารับซื้อเพื่อจัดจำหน่าย โดยทุเรียนของสวนไม่มีสารตกค้าง ไม่มีการชุบสี ปลอดภัย 100% และผลิตตามระบบมาตรฐาน GAP ของกรมวิชาการเกษตร
ขณะนี้สามารถสั่งซื้อทุเรียนของไฮฮิลล์ฟาร์มได้ทั้งหน้าสวนและออนไลน์ผ่านบริการจัดส่งของไปรษณีย์ไทย โดยเปิดจำหน่ายจนถึงปลายเดือนมิถุนายนนี้ นอกจากนี้ ยังมีบริการ บุฟเฟ่ต์ทุเรียนหลงลับแล 100% ไม่ผสมพันธุ์อื่น เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ คิดค่าบริการหัวละ 499 บาท หากจองล่วงหน้าจะได้ราคาพิเศษเพียง 450 บาท รับประทานไม่อั้นในเวลา 2 ชั่วโมง
นางสาวศศิวัณย์ ศรีพรหม กล่าวเสริมว่า งานนี้เป็นหนึ่งในความพยายามกระตุ้นการท่องเที่ยวชุมชนบ้านรักไทย โดยใช้ไฮฮิลล์ฟาร์มเป็นศูนย์กลาง เชื่อมโยงโฮมสเตย์ ท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ และสินค้าชุมชน “เราจัดเทศกาลนี้ต่อเนื่องมา 4 ปีแล้ว มีนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ และแม่สอดมาพักโฮมสเตย์ และปีนี้มีเอเจนซี่จากปักกิ่ง กวางเจา และเฉิงตู มาถึง 4 คณะ เพื่อเตรียมนำทุเรียนไทยไปจัดแสดงและจำหน่ายที่ประเทศจีน ถือเป็นโอกาสสำคัญในการขยายตลาดทุเรียนไทยไปยังผู้บริโภคระดับพรีเมียม”
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเดินทางไปยังจังหวัดพิษณุโลกได้ ยังสามารถเลือกซื้อทุเรียนคุณภาพจากไฮฮิลล์ฟาร์มได้ที่ ลานกิจกรรมชั้น 1 ห้างสุขสยาม ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ ซึ่งเปิดจำหน่ายควบคู่กันไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารและสั่งซื้อผ่านโซเชียลมีเดีย “ไฮ-ฮิลล์ ฟาร์ม” ได้ทุกช่องทาง หรือเดินทางมาชิมได้ที่สวน ไฮฮิลล์ฟาร์ม ตั้งอยู่ ม.9 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
….