พิษณุโลก มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดงานแถลงข่าว ครบรอบ 35 ปี ยืนหยัด ภายใต้แนวคิด University for Entrepreneurial Society มุ่งมั่นให้การสนับสนุนกำลังคนที่เป็นแรงงานที่มีคุณภาพ สนับสนุนองค์ความรู้ เครื่องมือ ผู้เชี่ยวชาญ และผลงานวิจัยเพื่อไปต่อยอดในการยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และตั้งเป้าหมายในการเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้านยาและสุขภาพ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดงานแถลงข่าว ครบรอบ 35 ปี มหาวิทยาลัยนเรศวร ณ อาคารวิสุทธิกษัตริย์ โดยมี คณาจารย์มหาวิทยาลัยนเรศวร นิสิตนักศึกษา ตลอดจนสื่อมวลชนจำนวนมากร่วมงานแถลงข่าว ซึ่งภายในงานได้จัดให้มีบูธโชว์ผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยฯสาขาต่างๆ จำนวนมากให้ผู้ร่วมงานได้ชม
รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ เปิดเผยว่า จากข้อมูลความสำเร็จของมหาวิทยาลัยนเรศวร ในการสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์ของการพัฒนายาแพทย์แผนไทยที่ได้มาตรฐานระดับสากล และระบบนิเวศเพื่อการส่งเสริมบริการสุขภาพด้วยนวัตกรรมเพื่อเป็นศูนย์กลางการให้บริการของอาเซียน ว่าระบบนิเวศในการผลิตยาแพทย์แผนไทยด้วยมาตรฐานสากลของมหาวิทยาลัยนเรศวรมีความครบถ้วนสมบูรณ์ ตามห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของการผลิตยาจากแพทย์แผนไทย และตามนโยบายของประเทศที่วางไว้ เหตุผลที่มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ก็เพราะมหาวิทยาลัยนเรศวรมีความโดดเด่นด้านยาสมุนไพรและการบริการทางด้านสุขภาพเฉพาะทาง และได้เล็งเห็นโอกาสของการยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ จากการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยา และบริการทางการแพทย์ จากข้อมูลของสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลังพบว่า หากจะพัฒนาสมุนไพรไทยไปสู่การเป็นยาหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ได้มาตรฐานนั้นต้องดำเนินตาม Value Chain ตั้งแต่การเริ่มการวิจัยพื้นฐานและวิจัยทางสาธารณสุข ไปจนถึง การส่งต่อผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภค ซึ่งมหาวิทยาลัยนเรศวร มีความเชี่ยวชาญความสามารถและความชำนาญ ใน Ecosystem ที่ตอบสนองต่ออุตสาหกรรมยาและบริการสุขภาพเพื่อสุขภาพอย่างครบวงจร ได้แก่
คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้นน้ำของ Value Chain ที่มีเครือข่ายร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่ ที่เชี่ยวชาญด้านการปลูกสมุนไพร และควบคุมคุณภาพสมุนไพร ให้เป็นไปตามมาตรฐาน GAP นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวรยังมีศูนย์แปรรูปพืชผักและผลไม้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO เพื่อแปรรูปให้เหมาะสมก่อนเข้าหน่วยผลิตสารสกัดและยาสมุนไพร
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยนเรศวร มีโรงงานสารสกัดและผลิตภัณฑ์สมุนไพรชนิดน้ำ ของคณะเภสัชศาสตร์(NU Herbal) ซึ่งเป็นหน่วยกลางน้ำสำหรับการผลิตสารสกัดสมุนไพร ที่ได้การรับรอง GMP ทั้งนี้ NU Herbal ยังเป็นหน่วยปลายน้ำสำหรับการผลิตภัณฑ์สมุนไพรหรือยาสมุนไพร ยิ่งกว่านั้น ภายใต้สำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ก่อตั้งโรงงานผลิตยาสมุนไพรที่ได้มาตรฐาน GMP อีกแห่งหนึ่ง เพื่อขยายให้สามารถผลิตยาสมุนไพร ประเภท solid dosage form ดังนั้น มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงเป็นหน่วยผลิตที่ครอบคลุมการผลิตยาสมุนไพรที่ครบวงจร ทำให้เชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ทางยาที่ผลิตไปจากมหาวิทยาลัย เป็นไปตามข้อกำหนดสำคัญของการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในประเทศ และเป็นไปตามมาตรฐานที่ทั่วโลกยอมรับ ทำให้ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรไทยที่ผลิตด้วยมาตรฐานสากล สามารถจำหน่ายได้ทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันมหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีความร่วมมือกับภาคเอกชนในด้านการทำตลาดยา และพร้อมที่จะส่งต่อสู่ระบบบริการสุขภาพแบบครบวงจร เพราะมหาวิทยาลัยมีโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิขั้นสูง (Super Tertiary Care) และมีสถานบริการแพทย์แผนไทยที่ได้รับการรับรอง ตลอดจนสามารถผลิตกำลังคนเพื่อรองรับอุตสาหกรรมและบริการทางการแพทย์ ซึ่งโครงการนี้จะช่วยให้ GRP ของภาคเหนือตอนล่างเติบโตประมาณ 0.7%-1% ภายใน 3 ปี และช่วยให้ GPP ของจังหวัดพิษณุโลกเติบโตประมาณ 2.24% ในปีแรก