น้ำแม่น้ำยมสายเก่า หรือ คลองเมม สูงขึ้นกว่า 1 เมตร จากเมื่อวาน ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชนสองฝั่งแล้ว หลังใช้มาตรการผันน้ำลงแม่น้ำน่านอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยลดวิกฤตน้ำท่วมสุโขทัย ทางการพยายามสกัดน้ำไม่ให้หลากเข้าทุ่งบางระกำโมเดล ที่เป็นพื้นที่นาข้าวที่ยังไม่ได้เกี่ยวข้าวประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ แต่ชาวนาไม่มั่นใจเกรงพนัง และถนนกั้นจะรับปริมาณน้ำไม่ไหว เร่งเกี่ยวให้เสร็จทั้ง ๆ ข้าวยังไม่สุกเต็มที่
29 ก.ค.68 ที่แม่น้ำยมสายเก่า หรือคลองเมม ช่วงไหลผ่าน ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก มีน้ำระบายมาจาก จ.สุโขทัยเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เป็นแผนการระบายน้ำของ กรมชลประทาน เพื่อระบายน้ำลงแม่น้ำน่านให้เร็วที่สุด เป็นการลดภาวะวิกฤตน้ำท่วมสุโขทัย ทำให้ จ.สุโขทัย ทุกพื้นที่น้ำเริ่มลดลงเล็กน้อย แต่น้ำกลับมาเอ่ออยู่ในแม่น้ำยมสายเก่า และชลประทานก็ได้เร่งระบายออกสู่แม่น้ำน่าน ไปตามคลอง DR.2.8 ให้ได้ภายใน 2 วันที่เหลือจากเงื่อนเวลาที่ เขื่อนสิริกิตต์ ลดการระบายน้ำแม่น้ำน่านให้ต่ำกว่า แม่น้ำยม ตอนนี้ แต่กระนั้นก็ทำให้น้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนริมสองฝั่งแม่น้ำยมสายเก่า หลายหลังคาเรือน เช่น บ้านของ นาย บรรจง นพคุณ อายุ 70 ปี ชาวบ้านหมู่ 12 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม บอกว่าน้ำหลากมาตอนกลางคืน ตื่นเช้ามาน้ำท่วมบ้านสูงแล้ว รีบขนย้ายข้าวของหนีน้ำแทบไม่ทัน ส่วน บ้านของ นาง บุญยืน เรืองศรี ชาวบ้านหมู่ 12 ต.ท่าช้าง บอกว่า น้ำขี้นเร็วมาก ต้องขนย้ายข้าวของหนีน้ำช่วงกลางคืน และยังเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ ไม่หยุด และยังมีบ้านอีกหลายหลังต้องประสบภัย โดย อบต.ท่าช้าง และกำนัน ต.ท่าช้าง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป ในขณะที่น้ำจาก ม.ยมสายเก่าเริ่มเอ่อท่วมพื้นผิวการจราจรบางแห่งแล้ว ส่วนเกษตรกร ไม่ไว้ใจเหตุการณ์ ที่ทางการจะช่วยทำคันกั้นน้ำไม่ให้ไหลข้ามฝั่งเข้าสู่ทุ่งบางระกำโมเดล ที่มีข้าวอยู่เต็มทุ่งนา ได้ว่าจ้างรถเกี่ยวข้าวมาจำนวน 9 คัน ทำการเร่งเกี่ยวข้าวที่ยังสุกไม่เต็มที่ ที่จริง ๆ ต้องรออีกประมาณ 2-3 สัปดาห์ ถึงจะแก่เต็มที่เพื่อเอาไปขายก่อน ดีกว่าทิ้งให้จมน้ำ และไม่มั่นใจว่า จะเอาน้ำอยู่ ซึ่งตามกำหนด จะต้องเกี่ยวข้าวก่อน 15 ส.ค.68 นี้ แต่น้ำปีนี้มาก่อนแผน ที่ทางการวางไว้ ทำให้ชาวนาในทุ่งบางระกำโมเดล ต้องเสียโอกาสอีกครั้ง