แม่หญิงสาวเช่ารถMGตกเขาคอม้า มาตรวจ DNA เทียบโครงกระดูกในรถ

วันที่ 13 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าว จ.พิษณุโลก รายงานว่าเมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.อ.จาตุรนต์ บุษปะเกศ รอง ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก  พ.ต.อ.รวิกร อุกฤษฎ์มโนรถ ผกก.สภ.ชาติตระการ  มากำกับดูแลความเรียบร้อย ในการเก็บ DNA จากนางเสนอ  พงษ์ดี  อายุ 67 ปีแม่ของ น.ส.รัตน์ชนก พงษ์ดี อยู่บ้านเลขที่ 3/11 ม.10 ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง  ที่ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 (ศพฐ.)พิษณุโลก  ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เพื่อนำ ดีเอ็นเอ ไปตรวจเปรียบเทียบกับโครงกระดูก ภายในรถยนต์เก๋ง MG  สีดำ หมายเลขทะเบียน 4 ขว 7354 กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการตรวจพิสูจน์ตามคดีดังกล่าว

พ.ต.อ.รวิกร อุกฤษฎ์มโนรถ ผกก.สภ.ชาติตระการ กล่าวว่า ความคืบหน้าวันนี้ นางเสนอ  พงษ์ดี  อายุ 67 ปีมารดา ของ น.ส.รัตน์ชนก พงษ์ดี  ซึ่งเป็นคนเช่ารถเก๋ง MG  สีดำ หมายเลขทะเบียน 4 ขว 7354 กรุงเทพมหานคร ซึ่งประสบอุบัติเหตุ พบเป็นซากที่บริเวณเขาคอม้า อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา นั้น ซึ่งเนื้อความคือคุณรัตน์ชนก เช่ารถไปแล้วก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวอยู่ที่ไหน เลยมีการปิดต่อทางญาติที่ จ.อ่างทอง ก็คือคุณแม่และน้องสาว ให้เดินทางเข้าไปที่ ศพฐ.พิษณุโลก  เพื่อไปเก็บ DNA ไว้ เพื่อนำ DNA มาตรวจเปรียบเทียบกับเศษชิ้นส่วนโครงกระดูกที่อยู่ภายในรถเก๋งซึ่งก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน เก็บตัวอย่างไว้แล้ว จากนั้นจะนำ DNA ส่งที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ นำไปตรวจเปรียบเทียบกัน เพื่อจะดูว่ามีอะไรที่สัมพันธ์ตรงกันหรือไม่ เป็นการพิสูจน์ทราบ  1 ถ้า DNA ตรงกัน ก็จะพิสูจน์ได้ว่า น.ส.รัตน์ชนก เป็นคนประสบอุบัติเหตุ  แต่ถ้าไม่ใช่ ต้องไปหาว่าคนหายคือใคร เก็บ DNA เป็นพื้นฐานการสอบสวน นำมาตรวจยืนยันเปรียบเทียบอีกที

ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้นทางญาติก็ได้ระบุว่า น.ส.รัตน์ชนก ก็ได้หายตัวไปเช่นเดียว กันโดยน้องสาว น.ส.รัตน์ชนก ให้ข้อมูลว่า พี่สาวได้เข้าไปที่บ้าน อ่างทอง ไปหาแม่ และไปรับน้องสาวที่บ้าน ไปซื้อของให้แม่มีการพูดจา ทำนองจะสั่งลากัน ในความรู้สึกของส่วนตัวของน้องสาวเป็นคำพูดประมาณนั้น หลังจากคุณรัตน์ชนก ไม่ได้กลับบ้านในเขตอำเภอเมืองอ่างทอง นานแล้ว  เขาได้ใช้ชีวิตของเขา ไม่กลับบ้าน อยู่มาวันนั้นได้กลับมาบ้านพาไปซื้อของให้แม่แล้วพูดจาที่ทำให้น้องมีลางสังหรณ์ว่าพี่มาลา แต่ว่าก็พูดไม่ชัดเจนขนาดนั้น ประกอบกลับได้หายตัวไป แล้วมีรถต้องสงสัยด้วย มีการเช่ารถมา แล้วมาพบรถในลักษณะเป็นซาก ในวันนี้จึงได้เดินทางมาจากจังหวัดอ่างทองเมื่อช่วงเวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา เพื่อมาตามนัดเวลา 09.00 น. ที่ ศพฐ.พิษณุโลก ที่ตำบลหัวรอ เพราะเขาก็อยากรู้ว่าใช่หรือไม่ จึงยินดีเดินทางมาตรวจ DNA ให้  ล่าสุด ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ได้มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ที่ สภ.ชาติตระการ เพื่อสอบปากคำ เพื่อบันทึกประกอบสำนวนคดีต่อไป

ข้อมูล จากกรณี คดีเกิดอุบัติเหตุรถพ่วงบรรทุกไม้ตกเหวเขาคอม้า ม.15 ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก จนนำไปสู่การพบซากรถ MG ปริศนา อีก 1 คัน อยู่ด้านล่าง สภาพถูกไฟไหม้ทั้งคัน และพบโครงกระดูกมนุษย์ เมื่อวันที่  7 ส.ค. 68 ที่ผ่านมา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บกู้ซากรถจากเหวลึก ซึ่งเป็นรถบรรทุกพ่วงและรถยนต์เก๋ง MG คันดังกล่าว ได้ดำเนินการ จอดไว้ที่ สภ.ชาติตระการ และอยู่ระหว่างการประสานผู้เชี่ยวชาญเข้ามาทำการตรวจสอบหมายเลขคัสซีและหมายเลขเครื่องยนต์ พบว่ารถเก๋งดังกล่าวมี นายนิโรจน์ จำปามูล อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/163 แขวงบางหลวง เขตเมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี  เป็นเจ้าของรถ และมีธุรกิจให้เช่าเต้นรถ และเคยแจ้งความที่ สน.สายไหม ว่า ได้ให้ น.ส.รัตน์ชนก พงษ์ดี อยู่บ้านเลขที่ 3/11 ม.10 ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ได้มาทำการติดต่อเช่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ยี่ห้อ เอ็มจี สีดำ หมายเลขทะเบียน 4ขว 7354 กรุงเทพมหานคร ไว้เมื่อ 2 ปีก่อน โดยได้ทำสัญญาเช่าแบบรายวัน แต่ไม่ได้นำรถกลับมาคืน อีกทั้งสัญญาณ GPS จากรถคันนี้ ก็ขาดหายไปบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุบนเขาคอม้า จ.พิษณุโลก

 

ก่อนนี้หน้า นายนิโรจน์ จำปามูล เจ้าของรถ ได้เดินทางมาที่ สภ.ชาติตระการ เพื่อให้ปากคำและนำหลักฐานเกี่ยวกับรถยนต์ดังกล่าวมาให้แก่ ร.ต.อ.ชัยณรงค์ คงเมือง พนักงานสอบสวน สภ.ชาติตระการ เพื่อไขปริศนาว่าศพดังกล่าว เป็นของน.ส.รัตน์ชนก ผู้เช่ารถด้วยหรือไม่ โดยนายนิโรจน์ ได้เข้าไปตรวจสอบซากรถ MG และพบว่า ตัวเลขคลัชซีตรงกันจริง พร้อมให้ปากคำว่า ตนเองที่เดินทางมาเพื่ออยากจะทราบว่าศพดังกล่าว เป็นของ น.ส.รัตน์ชนก จริงหรือไม่ ถ้าไม่จริงก็อยากเจอตัวเค้า ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่  ซึ่งเมื่อปี 66 นั้น รถของตนเอง GPS สัญญาณตัดหายไปที่บริเวณเขาคอม้า แต่เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่า ในปี 67 น.ส.รัตน์ชนก มีคดีช่อโกงอีกครั้ง ทำให้เชื่อได้ว่า น.ส.รัตน์ชนก น่าจะยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งโครงกระดูกดังกล่าวก็ไม่น่าจะเป็นของ น.ส.รัตน์ชนก ด้วย อาจมีการขายต่อให้กับบุคคลอื่นเป็นมือสอง มือสาม ก็ได้ แต่ก็ต้องรอผลพิสูจน์ ดีเอ็นเอ จากนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ให้ชัดเจน

 

ขณะที่แนวทางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ตรวจสอบดีเอ็นเอ แม่ ของน.ส.รัตน์ชนก ว่าตรงกับกระดูกที่พบหรือไม่ หากพบว่ากระดูกดีเอ็นเอ ตรงกัน ก็อาจเป็นดดีอุบัติเหตุ ซึ่งอาจไม่เข้าค่ายคดีลักทรัพย์ได้ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง

……….

 

แสดงความคิดเห็น