พิษณุโลก เตรียมจัดกีฬาเชื่อมมิตรภาพ “สองแควเกมส์” ครั้งที่ 40 ต้อนรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่กว่า 17 จังหวัดภาคเหนือ ชิงชัย 17–26 ตุลาคมนี้ พร้อมชูสโลแกน “มิตรภาพ ไมตรี สามัคคี รวมพลัง” และโชว์ตราสัญลักษณ์–มาสคอตสุดสร้างสรรค์
วันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมดิอิมพิเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จังหวัดพิษณุโลก นายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายศิริชิน หาญพิทักษ์พงศ์ นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก นายปรีชา แดงแสงทอง ท้องถิ่นจังหวัดพิษณุโลก และนายเสน่ห์ คุ้มเกตุ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดพิษณุโลก จัดแถลงข่าวและประชุมจับสลากแบ่งสายการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รอบคัดเลือกระดับภาคเหนือ ครั้งที่ 40 ประจำปีงบประมาณ 2569 “สองแควเกมส์” โดยมีผู้แทนจาก 17 จังหวัดภาคเหนือ และสื่อมวลชนร่วมงานอย่างคับคั่ง
การแข่งขันกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 26 ตุลาคม 2568 จังหวัดพิษณุโลกได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ ภายใต้สโลแกน “มิตรภาพ ไมตรี สามัคคี รวมพลัง” เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี ความสามัคคี และน้ำใจนักกีฬาผ่านกิจกรรมการแข่งขัน
นายทรงพล กล่าวว่า ตราสัญลักษณ์ “สองแควเกมส์” ได้รับการออกแบบโดยเชื่อมโยงกับอัตลักษณ์ของจังหวัดพิษณุโลก ได้แก่ ลวดลายองค์พระพุทธชินราช เลขไทย 40 ลายประจำยาม ซึ่งเป็นลวดลายโบราณอันงดงาม จะปกป้องรักษา และป้องกัน ภัยภยันตรายต่างๆ ให้กับเหล่านักกีฬาในการแข่งขันนี้ โดยมีจำนวน 5 ดอก หมายถึง ความยุติธรรม ซื่อสัตย์ และมีคุณธรรม อันเป็นพื้นฐานสำคัญของการกีฬา เส้นริ้วสีน้ำเงิน-ฟ้า เปรียบดั่งสายน้ำน่าน ที่หล่อเลี้ยงชีวิตในเมืองพิษณุโลก ให้ความชุ่มชื่น เยือกเย็น แต่เปี่ยมไปด้วยความหวังและความสามัคคี ไหลหนุนให้กับการแข่งขันครั้งนี้ พร้อมสีมงคล 4 สี คือ ม่วง ทอง ฟ้า และเขียว ส่วนมาสคอตประจำการแข่งขันคือ “ต้าวขุน” “น่านนที” ช้างสัญลักษณ์ของเทศบาลนครพิษณุโลก แทนความแข็งแกร่ง อดทน และผูกพันกับประวัติศาสตร์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ด้านนายศิริชิน กล่าวว่า เทศบาลนครพิษณุโลกได้รับมอบหมายจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นเจ้าภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนออกกำลังกาย พัฒนาทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา รวมถึงยกระดับทักษะกีฬาสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ จึงได้เตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน ทั้งการซ่อมแซมและพัฒนาสนามแข่งขัน จัดสิ่งอำนวยความสะดวก ที่พักนักกีฬา และระบบพื้นฐานมาตรฐานสากล จัดอบรมเจ้าหน้าที่ กรรมการ อาสาสมัคร และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงวางระบบบริหารจัดการทันสมัย เช่น ระบบลงทะเบียนและรายงานผลแบบเรียลไทม์
การแข่งขันครั้งนี้มีนักกีฬาจาก 17 จังหวัดภาคเหนือรวมกว่า 6,000 คน ลงชิงชัยใน 16 ชนิดกีฬา แบ่งเป็นกีฬาบังคับ 14 ประเภท ได้แก่ กรีฑา เทเบิลเทนนิส วอลเลย์บอลในร่ม วอลเลย์บอลชายหาด ฟุตบอล ฟุตซอล เซปักตะกร้อ เปตอง แบดมินตัน หมากรุกไทย หมากฮอสไทย จักรยานขาไถ อีสปอร์ต และเทคบอล และกีฬาสาธิต 2 ประเภท ได้แก่ ว่ายน้ำ และหมากล้อม
นายศิริชิน กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้การสนับสนุน ทั้งกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ภาคเอกชนอย่างบริษัทแกรนด์สปอร์ตและบริษัทมาราธอน (ประเทศไทย) จำกัด รวมถึงมหาวิทยาลัยและหน่วยงานในจังหวัดที่สนับสนุนสนามแข่งขัน กรรมการตัดสิน ที่พัก และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ
ผู้จัดงานยืนยันว่า จังหวัดพิษณุโลกพร้อมต้อนรับนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้มาเยือนตลอด 10 วันของการแข่งขัน พร้อมเชิญชวนร่วมสัมผัสบรรยากาศการแข่งขันควบคู่กับการท่องเที่ยวเมืองสองแคว ทั้งวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร พระราชวังจันทน์ น้ำตกชาติตระการ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ของจังหวัด