หวาดเสียว น้ำกัดเซาะตลิ่ง ถนนคอนกรีตไหลลงแม่น้ำน่านยาว 400 เมตร

สถานการณ์น้ำท่วมพิษณุโลกตึงเครียด แม่น้ำน่านขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี ซัดตลิ่งบ้านวังตะบัว ต.โคกสลุด อ.บางกระทุ่ม ถนนคอนกรีตเสริมเหล็กหนา 30 เซนติเมตรพังถล่มไหลลงแม่น้ำยาวกว่า 400 เมตร ชาวบ้านต้องปิดเส้นทางสัญจร หวั่นแรงน้ำกัดเซาะลุกลามถึงโรงสีชุมชนและบ้านเรือนที่อยู่ห่างเพียง 10 เมตร ขณะที่โครงการเขื่อนป้องกันมูลค่า 59 ล้านบาทยังไร้ความคืบหน้า

สถานการณ์แม่น้ำน่านทวีความน่ากังวล หลังระดับน้ำเช้าวันที่ 3 กันยายน 2568 ขึ้นสูงสุดในรอบ 14 ปี ล่าสุดวัดได้กว่า 9.58 เมตร เหลืออีกเพียง 1 เมตรก็จะถึงระดับตลิ่ง สร้างแรงกดดันมหาศาลต่อชุมชนริมฝั่ง โดยเฉพาะหมู่ 9 บ้านวังตะบัว ตำบลโคกสลุด อำเภอบางกระทุ่ม ที่ถนนคอนกรีตเสริมเหล็กหนา 30 เซนติเมตร ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนพังถล่มลงแม่น้ำต่อเนื่องยาวร่วม 400 เมตร สร้างภาพหวาดเสียวและความตื่นตระหนกแก่ชาวบ้านที่ต้องเฝ้ามองถนนหายไปต่อหน้าต่อตา

นายวันจักรี กลิ่นแย้ม ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 บ้านวังตาบัว ตำบลโคกสลุด อำเภอบางกระทุ่ม เปิดเผยว่า ปีนี้แม่น้ำน่านขึ้นสูงมากๆและส่งผลกระทบกับ ถนนคอนกรีตริมแม่น้ำน่านของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นช่วงโค้งรับน้ำ พอดี ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมาต่อเนื่องจนถึงกันยายน แม่น้ำน่านขึ้นสูงค่อยๆกัดเซาะตลิ่งจนเป็นโพรงด้านล่าง ถนนคอนกรีตที่มีความหนาถึง 30 เซนติเมตรค่อยๆหล่นหายไปทีละช่วง จนทุกวันนี้ยังมี ถนน พังเป็นช่วงๆตลอดเวลา นอกจากนี้ในพื้นที่ยังมีจุดเสี่ยงที่อาจจะพังไปพร้อมกับตลิ่ง ประกอบด้วยโรงสีชุมชน 1 แห่งและ บ้านของชาวบ้านในพื้นที่อีก 3 หลัง ขณะนี้ได้ปิดเส้นทางสัญจรแล้วถนนที่พังลงระยะทางประมาณ 400 เมตรไม่สามารถใช้ได้และได้ทำทางเบี่ยงชั่วคราวให้ชาวบ้านได้ใช้

ผู้ใหญ่บ้านเปิดเผยต่อว่า ถนนคอนกรีตที่พังลงในปีนี้นับเป็นถนนเส้นที่ 3 แล้วที่พังลงโดยถนนเส้นแรก เป็นถนนลูกรัง ที่อยู่ห่างจากถนนปัจจุบันไปในแม่น้ำประมาณ 50 เมตร ช่วงนั้น  40 ปีที่ผ่านมา แม่น้ำน่านได้ค่อยๆกัดเซาะถนนลูกรังพัง และต่อมา ได้มีการก่อสร้างถนนแห่งใหม่เขยิบเข้ามา เป็นถนนของรปชหรือเร่งรัดพัฒนาชนบทที่อัดแน่นอย่างดีแต่ก็ถูกความแรงของกระแสน้ำ พัดพังลงไปอีก จึงต้องร่นแนวการทำถนนเส้นล่าสุดก็คือถนนคอนกรีตในปัจจุบันอบต.โคกสลุดเป็นผู้ก่อสร้างให้ และเป็นถนนเส้นที่ 3 ที่ต้องพังลงในแม่น้ำน่าน

ทั้งนี้ได้มีการสำรวจออกแบบ เพื่อก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพังบริเวณดังกล่าวแล้วและมีการประกาศประกวดราคาจนได้ผู้รับเหมาก่อสร้างแล้ว งบประมาณก่อสร้าง 59 ล้านบาท กำหนดสัญญาการก่อสร้างตั้งแต่ปี  29 สิงหาคม 2567 ถึงปี 29 กรกฎาคม 2569 ได้มีการนำวัสดุอาทิหินขนาดใหญ่มาลงในพื้นที่แล้ว แต่ผ่านไป 1 ปียังไม่มีการดำเนินการก่อสร้างแต่อย่างใดทราบแต่เพียงว่าผู้รับเหมามีการปรับแบบก่อสร้าง ซึ่งทางต้นและชาวบ้านก็ได้หวังว่า น่าจะมีการก่อสร้างโดยเร็วหลังจากน้ำลดลง

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบแนวตลิ่งพังของผู้สื่อข่าวพบว่าแม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านบ้านวังตาบัวเป็นโค้งน้ำที่มีกระแสน้ำไหลแรงมากๆ น้ำได้กัดเซาะตลิ่งเป็นโพรงด้านล่างยังเห็นร่องรอยถนนคอนกรีตที่มีความหนาประมาณ 30 เซนติเมตรลอยอยู่ ขอบตลิ่งและหลายๆจุดจะเห็นร่องรอยชัดเจนว่า ถนนคอนกรีตได้แตกหัก เตรียมพร้อมที่จะหล่นลงไปในแม่น้ำน่าน

นอกจากนี้ชาวบ้านในพื้นที่ที่บ้านอยู่ติดกับตลิ่งห่างจากแม่น้ำน่านประมาณ 10 เมตรก็อยู่ในช่วงหวาดผวาว่าความแรงของแม่น้ำน่านในช่วงนี้จะกัดเซาะมาถึงบ้านตนได้เพียงแต่สังเกตการณ์ทุกวันหากเข้ามาใกล้อาจจะต้องอพยพออก

สถานการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงสร้างความเสียหายต่อเส้นทางสัญจร แต่ยังกลายเป็นฝันร้ายของชาวบ้านที่ต้องอยู่กับความหวาดผวาทุกวันในช่วงฤดูน้ำหลาก กังวลว่าจะถึงคิวบ้านตนถล่มลงไปในแม่น้ำเมื่อใด

/////////////////////

 

แสดงความคิดเห็น